อุตสาหกรรมจีนฟื้นตัว ดันค่าหมอกควันพิษพุ่ง

ศูนย์วิจัยร่วมแห่งชาติเพื่อการแก้ไขปัญหาหลักในการควบคุมมลพิษทางอากาศ (NJRC) ระบุว่า เทียนจินและถังซาน ศูนย์การผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดของจีนทั้งยังเป็นเมืองที่ติด 1 ใน 13 ได้ออกประกาศเตือนภัยมลพิษทางอากาศในระดับ "สีส้ม" ซึ่งถือเป็นระดับที่รุนแรงเป็นอันดับ 2

ประกาศเตือนภัยมลพิษทางอากาศในระดับ "สีส้ม"  หมายความว่าดัชนีคุณภาพอากาศเฉลี่ยของจีน (AQI) ในรอบ 3 วันพุ่งขึ้นสูงกว่า 200 มคก./ลบ.ม ซึ่งจัดอยู่ในประเภท "มลพิษหนัก" และโดยปกติแล้วภายใต้กฎระเบียบของจีนต้องสั่งปิดการดำเนินงานของอุตสาหกรรมต่างๆ หรือลดการผลิตลง ซึ่งในช่วงแรก โรงถลุงเหล็กหลายแห่งต้องลดการเผาผนึกลงให้ได้ 30% - 50% เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐบาล

เดิมที คุณภาพอากาศในพื้นที่ปักกิ่งเทียนจิน และเหอเป่ยดีขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่รัฐบาลประกาศสงครามต้านฝุ่นตั้งแต่ปี 2014 ยกระดับมาตรฐานการปล่อยมลพิษ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องปิดตัวหรือย้ายฐานการผลิต

NJRC ระบุเพิ่มเติมว่า การเพิ่มขึ้นของมลพิษทางอากาศในจีนในช่วงไม่กี่วันมานี้ เป็นผลมาจากกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมเหล็กและซีเมนต์ได้เริ่มดำเนินการมากขึ้น ขณะที่ปริมาณการใช้รถบรรทุกดีเซลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าหมอกควันพิษจะยังคงอยู่จนถึงวันที่ 10 มีนาคม

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมของอุตสาหกรรมต่างๆที่เพิ่มขึ้น เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ทางการจีนเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งนับตั้งแต่ยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดเมื่อปลายปีที่แล้ว