ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงต่อ หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

ดัชนีทั้งสามตัวลดลงประมาณ 3% ในสัปดาห์นี้ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 เดือน

หลังจากเดือนมกราคมที่แข็งแกร่ง หุ้นได้ปรับตัวลดลงในเดือนนี้เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจจำนวนมากทำให้ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจจะต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ให้นานขึ้น 

จากข้อมูลเมื่อวันศุกร์ทีผ่านมา ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดนิยมใช้ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนธันวาคม การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3%

ดัชนี S&P 500 (.SPX) ลดลง 41.90 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 3,970.42 จุด ในขณะที่ Nasdaq Composite (.IXIC) ลดลง 195.52 จุด หรือ 1.67% เป็น 11,394.88 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 335.47 จุด หรือ 1.01% เหลือ 32,818.44 จุด

ด้านราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจากการค้าที่ผันผวนตามแนวโน้มการชะลอตัวของการส่งออกของรัสเซีย แต่ได้รับแรงกดดันจากสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาและความกังวลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.39% ที่ 82.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดสหรัฐฯ (WTI) ของเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มิเดชั่นแนล เพิ่มขึ้น 0.52% เป็น 75.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ส่วนราคาทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น ทองรูปพรรณลดลง 0.6% เหลือ 1,812.45 เหรียญต่อออนซ์ ในขณะที่ทองฟิวเจอร์สลดลง 0.5% เหลือ 1,818.10 เหรียญต่อออนซ์