CATL ผู้ผลิตแบตเตอร์รี่ EV รายใหญ่ประกาศลดราคาสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จีน

ในปี 2022 CATL ถือครองสัดส่วนของยอดขายแบตเตอรี่ EV ทั่วโลกราว 37.1% และได้เสนอข้อตกลงเกี่ยวกับแบตเตอรี่ EV สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ อย่าง NIO, Li Auto (Nasdaq: LI), Huawei และ Zekr ซึ่ง CATL ถือว่าเป็น "ลูกค้าเชิงกลยุทธ์" 

17 ม.ค. NIO ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะ 5 ปีกับ CATL ขณะที่ลูกค้าที่ใหญ่ของ CATL อย่าง ‘เทสล่า’ กลับไม่ได้อยู่ในกลุ่ม "ลูกค้าเชิงกลยุทธ์" ทั้งนี้ CATL จะกำหนดราคาขายไฟฟ้าส่วนหนึ่งกับผู้ผลิตรถยนต์โดยอ้างอิงจากราคา 29,116 เหรียญสหรัฐต่อตันของลิเธียมคาร์บอเนตสำหรับสามปีข้างหน้า ส่วนผู้ผลิตรถยนต์ที่ลงนามในข้อความร่วมมือดังกล่าวจะต้องส่งมอบแบตเตอรี่ให้แก่ CATL ประมาณ 80% 

โครงการดังกล่าวจะดำเนินการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 ซึ่ง CATL ได้ขอให้ซัพพลายเออร์ลดราคาลง 10% ขณะที่ราคาลิเธียมคาร์บอเนตลดลงตั้งแต่ปลายปี 2022 และ Ouyang Minggao สมาชิกของสถาบันวิทยาศาสตร์จีนระบุว่าในประเทศจีนอาจลดราคาลงมากถึง 20% ในปี 2023 และคาดว่าอุปสงค์และอุปทานของลิเธียมจะกลับมาสมดุลภายใน 1-2 ปี 

ด้านมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ราคาลิเธียมคาร์บอเนตในจีนจะอยู่ที่ 67,500 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปี 2023จะลดลงเหลือ 47,500 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งบ่งชี้ถึงการลดลง 35% จากราคาส่งมอบในขณะนั้น

เทสล่าเป็นลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของ CATL ไม่ได้รับข้อเสนอนี้เพราะมันเป็นบริษัทอเมริกันเหรอ? หรือเป็นเพราะเทสล่าผูกพันกับข้อตกลงการกำหนดราคาการผลิตกับ CATL จนถึงปี 2025? และไม่มีผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่ใช่ชาวจีนคนไหนที่ดูเหมือนจะได้รับข้อเสนอพิเศษของ CATL

ส่วนสาเหตุที่ ‘เทสล่า’ กลับไม่ได้รับข้อเสนอนี้เนื่องจากฝ่ายบริหารของไบเดนผ่านกฎหมายลดเงินเฟ้อในปี 2022 ขณะที่จีนเป็นรายใหญ่ของการผลิตแบตเตอรี่ EV มากกว่า 50% ในตลาดโลก แน่นอนว่าจีนต้องโต้กลับระเบียบดังกล่าวจากสหรัฐฯ

ล่าสุด ฟอร์ดยังร่วมทุนกับ CATL ประกาศตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ LFP ในมิชิแกนมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2026 ทั้งสองบริษัทประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกที่ครอบคลุมการจัดหาแบตเตอรี่ในอเมริกาเหนือ ยุโรป และจีน ขณะที่เมื่อความต้องการ EV เพิ่มขึ้น คาดว่าตลาดลิเธียมจะโตขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2030 

ทั้งนี้  Electrek เว็บไซต์ข่าวซึ่งครอบคลุมการรายงานด้านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเจ้าของอย่าง Seth Weintraub มีส่วนถือหุ้นในเทสล่า ได้รายงานข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับเทสล่าหลายอย่างและได้ผลกำไรจำนวนมากจากการกระทำนี้ ซึ่งนักข่าวสายยานยนต์จำนวนมากได้วิจารณ์ถึงการกระทำในครั้งนี้