posttoday

บอลลูนจีน หนามแทงใจสหรัฐ ถ่างรอยร้าวความสัมพันธ์

08 กุมภาพันธ์ 2566

เหตุการณ์ตรวจพบบอลลูนปริศนาของจีน ลอยเหนือน่านฟ้าของสหรัฐ กลายเป็นชนวนบาดหมางระหว่าง 2 ชาติรอบใหม่ หลังสหรัฐสงสัยว่าเป็นบอลลูนจารกรรม และใช้เครื่องบินขับไล่ยิงตกในทะเล ขณะที่จีนยืนกรานว่าเป็นเพียงบอลลูนตรวจสภาพอากาศ พร้อมเตือนเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบร้ายแรง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวในคำปราศรัย Union of State เมื่อวันอังคารว่า เขาจะยังร่วมมือกับมหาอำนาจคู่แข่งอย่างจีน แต่ให้คำมั่นว่า "จะปกป้องประเทศของเรา" ซึ่งอ้างอิงถึงกรณีบอลลูนสอดแนมของจีนที่ละเมิดน่านฟ้าอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

“ผมมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับจีน ที่ซึ่งเราสามารถพัฒนาผลประโยชน์ของอเมริกาและเป็นประโยชน์ต่อโลก แต่อย่างที่เราได้ประกาศอย่างชัดเจนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หากจีนคุกคามอธิปไตยของเรา เราจะดำเนินการเพื่อปกป้องประเทศของเรา และเราก็จะทำ”

โดยหลังจากถูกตรวจพบตอนลอยผ่านเข้าไปในน่านฟ้าของสหรัฐฯ ทางตอนเหนือของหมู่เกาะ Aleutian ของอลาสก้าเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มกราคม บอลลูนก็ถูกยิงตกลงนอกชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของสหรัฐฯ ในวันเสาร์ - หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ปักกิ่งประณามการยิงบอลลูนตกว่าเป็น "การแสดงปฏิกิริยาเกินจริงอย่างเห็นได้ชัด" และเรียกร้องให้วอชิงตันแสดงความยับยั้งชั่งใจ เมื่อถูกถามเมื่อวันอังคารว่าจีนขอให้สหรัฐฯ คืนเศษซากบอลลูนที่ตกหรือไม่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมา หนิง ระบุว่า บอลลูนเป็นของจีน

“บอลลูนนี้ไม่ใช่ของอเมริกา รัฐบาลจีนจะยังคงปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของตนต่อไป”

ขณะที่เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยับยั้งจีน จีนยังเตือนถึง "ผลกระทบร้ายแรง" และกล่าวว่าจะใช้วิธีการที่จำเป็นเพื่อจัดการกับ "สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน" โดยไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม

นอกจากเป็นชนวนขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจทั้งสองแล้ว บอลลูนลูกนี้ ยังกลายเป็นประเด็นร้อนของการเมืองภายในของสหรัฐเอง เมื่อนักการเมืองฟากฝั่งพรรครีพับลิกันหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมบอลลูนถึงไม่ถูกยิงก่อนที่จะถูกปล่อยให้เดินทางข้ามประเทศ แต่เจ้าหน้าที่เพนทากอนระบุว่า ไบเดนขอทางเลือกทางทหารเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่เพนตากอนประเมินว่าความเสี่ยงนั้นมากเกินไปที่จะยิงมันให้ตกบนดินแดนสหรัฐ เพราะอาจเกิดอันตรายกับประชาชนได้ หลายฝ่ายจึงระบุว่า เป็นท่าทีที่อ่อนข้อต่อจีนเกินไป โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากเส้นทางบินของบอลลูนที่ผ่านใกล้ไซโลเก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีปของสหรัฐ จึงถือว่าเป็นการมองข้ามผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ

ทำเนียบขาวออกมาแก้เกี้ยว โดยการออกมาระบุว่า พบข้อมูลว่ามีบอลลูนของจีนลอยผ่านน่านฟ้าของสหรัฐ 3 ครั้งในสมัยที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี  แต่นายพลอาวุโสของสหรัฐฯ พลอากาศเอก Glen VanHerck หัวหน้ากองบัญชาการป้องกันการบินและอวกาศอเมริกาเหนือและกองบัญชาการตอนเหนือของสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบในการสอยบอลลูนลงมา กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า กองทัพตรวจไม่พบบอลลูนสอดแนมครั้งก่อนๆ ก่อนบอลลูนที่ปรากฏขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคมทั่วสหรัฐฯ และเรียกมันว่า "ช่องว่างการรับรู้"  โดยกล่าวว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุเที่ยวบินก่อนหน้านี้หลังจากข้อเท็จจริงโดยอิงตาม "วิธีการเพิ่มเติมในการรวบรวม" ข่าวกรอง โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เป็นการรวบรวมข้อมูลทางไซเบอร์  การจารกรรม การดักฟังโทรศัพท์ หรือจากการใช้สายลับ

ไม่ว่าบอลลูนลูกนี้จะเป็นบอลลูนจารกรรมจริงตามข้อสงสัยของทางการสหรัฐ หรือเป็นเพียงบอลลูนตรวจสภาพอากาศที่สูญเสียการควบคุมตามคำกล่าวอ้างของจีน แต่การที่บอลลูนยักษ์ขนาดเท่ารถบัสถึง 3 คัน สามารถเข้าสู่น่านฟ้าของสหรัฐ โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้หลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสงสัยเรื่องประสิทธิภาพในการตรวจจับและป้องกันอากาศยานของสหรัฐ ซึ่งตามหลัก น่าจะเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้มงวดที่สุดในโลก บอลลูนเพียงลูกเดียว จึงทำให้กองทัพสหรัฐขายหน้า หลังจากส่งกองเรือรบมาปฏิบัติภารกิจในทะเลจีนใต้ ซึ่งเปรียบเหมือนสนามหญ้าหน้าบ้านของจีนมานาน