สหรัฐฯฟ้องกูเกิล (Google) ฐานครอบงำตลาดโฆษณา

กระทรวงยุติธรรมยื่นคำฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐอเมริกาสำหรับเขตตะวันออกของเวอร์จิเนีย การฟ้องร้องแสดงให้เห็นถึงความพยายามของกูเกิลที่จะครองตลาดโฆษณา โดยรัฐบาลระบุว่าบริษัทมี "เครื่องมือทางเทคโนโลยี" ในการกำจัดภัยคุกคามจากคู่แข่ง

การฟ้องร้องต่อธุรกิจซึ่งเป็นที่มาของรายได้ถึง 80% ของกูเกิล  กระทรวงยุติธรรมได้ขอให้ศาลบังคับให้กูเกิลยกเลิกส่วนสำคัญของธุรกิจเทคโนโลยีโฆษณาของตน

คำฟ้องในการต่อต้านการผูกขาดระบุว่า

กูเกิล ใช้วิธีการแข่งขัน ด้วยการกีดกัน และผิดกฎหมายในการกำจัดหรือสกัดคู่แข่งด้วยวิธีการต่างๆเพื่อครอบงำเทคโนโลยีโฆษณาดิจิทัลอย่างรุนแรง

รัฐบาลกลางได้กล่าวว่ากำลังพยายามปรับระดับการแข่งขันสำหรับคู่แข่งกับบริษัทบิ๊กเทค ซึ่งรวมถึง Amazon.com , Meta Platforms  เจ้าของเฟซบุ๊ก และ Apple Inc

การฟ้องร้องเมื่อวันอังคารโดยฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นความต่อเนื่องจากการฟ้องร้องคดีต่อต้านการผูกขาดปี 2020 ต่อกูเกิลในช่วงสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกูเกิลถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในการเข้าครอบครองหรือรักษาความครอบงำของบริษัทด้วยการผูกขาดในการค้นหาทางออนไลน์ และมีกำหนดจะขึ้นศาลในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

ขณะนี้ มีรัฐที่เข้าร่วมฟ้องกับกระทรวงยุติธรรมแล้ว 8 รัฐ

ฟิล ไวเซอร์ อัยการสูงสุดของโคโลราโดกล่าวว่า การครอบงำธุรกิจของกูเกิลทำให้ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ลงโฆษณาสูงขึ้นและสำหรับสำนักพิมพ์ที่มีพื้นที่โฆษณาจะได้รายได้น้อยลง

'เรากำลังดำเนินการโดยยื่นฟ้องเพื่อแก้ปัญหาการผูกขาดของกูเกิล และคืนการแข่งขันให้กับธุรกิจโฆษณาดิจิทัล'

นอกเหนือจากการค้นหาข้อมูลที่รู้จักกันดีว่าไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว กูเกิลยังสร้างรายได้ผ่านธุรกิจโฆษณาที่เชื่อมโยงกัน รัฐบาลขอขาย Google Ad Manager ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนโฆษณาของ Google AdX ด้วย

Google Ad Manager เป็นชุดเครื่องมือที่ประกอบด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้เว็บไซต์สามารถนำเสนอพื้นที่โฆษณาสำหรับการขายและการแลกเปลี่ยนที่ให้บริการตลาดซึ่งตรงกับผู้ลงโฆษณากับสำนักพิมพ์เหล่านั้นโดยอัตโนมัติ

ที่ผ่านมา ผู้โฆษณาและผู้เผยแพร่เว็บไซต์บ่นว่า กูเกิลไม่โปร่งใสเกี่ยวกับเงินโฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนเงินที่ไปให้กับสำนักพิมพ์และจำนวนเงินที่กูเกิ้ลได้ไป

การฟ้องร้องครั้งนี้ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บางอย่างในส่วนของโฆษณาที่สำนักพิมพ์และผู้โฆษณาซื้อและขายพื้นที่โฆษณา

ธุรกิจนี้มีมูลค่าประมาณ 31.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 หรือ 12.3% ของรายได้รวมของกูเกิล โดยประมาณ 70% ของรายได้ ตกเป็นของสำนักพิมพ์

ขณะที่กูเกิลได้ทำการซื้อบริษัทอีกหลายแห่ง เข่น DoubleClick ในปี 2008 และ AdMob ในปี 2009 เพื่อช่วยให้บริษัทเป็นผู้นำด้านการโฆษณาออนไลน์ต่อไป

ขณะที่กูเกิลยังคงเป็นผู้นำตลาดในระยะยาว ส่วนแบ่งรายได้โฆษณาดิจิทัลของสหรัฐฯ ได้ลดลงเหลือ 28.8% ในปีที่แล้วจาก 36.7% ในปี 2016 ตามรายงานของ Insider Intelligence

แต่กูเกิลกล่าวว่ารัฐบาลกำลังกล่าวหาเกินจริงด้วยข้อกล่าวหาที่มีข้อบกพร่อง ซึ่งจะทำให้การพัฒนานวัตกรรมสะดุดลง ทำให้ค่าโฆษณาแพงขึ้น และจะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กและบริษัทหลายพันแห่งเติบโตได้ยากขึ้น

และการฟ้องร้องครั้งนี้ ทำให้หุ้นกูเกิ้ลลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันอังคาร