posttoday

รวบเจ้าพ่อมาเฟียอิตาลี หลังไล่ล่ากว่า 30 ปี

17 มกราคม 2566

จบตำนานการไล่ล่ากว่า 30 ปี เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีผู้โหดเหี้ยม ‘มัตเตโอ เมสซีนา เดนาโร (Matteo Messina Denaro)’ ถูกจับแล้วในสถานพยาบาลหลังเข้ารับการรักษามะเร็ง

มัตเตโอ เดนาโร เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีผู้โหดเหี้ยมทั้งยังเคยกล่าวอ้างว่าเขาได้สังหารผู้คนไปมากชนิดที่ว่าถมสุสานเต็ม เขาชื่นชอบการใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์หรูที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี ชอบสวมแว่นกันแดดราคาแพง นาฬิกา Rolex ทานอาหารมื้อหรู แถมยังรักการเล่นวิดีโอเกม ข้อมูลเหล่านี้คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบ แต่มีเพียงข้อมูลเดียวที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสืบหาได้ตลอดระยะเวลา 30 ปี คือ ‘เขากบดานอยู่ไหน?’

แต่เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. การไล่ล่าที่นานกว่า 30 ปีก็ได้สิ้นสุดลง เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว ‘มัตเตโอ เดนาโร’ เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีที่ถูกหมายหัวมากที่สุด ณ คลินิกเอกชน ในเมืองปาแลร์โม เมืองหลวงของซิซิลี หลังเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลมาว่ามัตเตโอเข้ารับการรักษามะเร็งในสถานพยาบาลแห่งนี้

Giorgia Meloni นายกรัฐมนตรีอิตาลี บินตรงไปยังจุดเกิดเหตุทันทีหลังทราบข่าวการจับกุม ทั้งนี้เขายังกล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลอง เราสามารถบอกลูกหลานของเราต่อๆไปได้ว่าแก๊งมาเฟียก็ถูกโค่นได้”

‘มัตเตโอ เมสซีนา เดนาโร (Matteo Messina Denaro)’  เกิดในเมือง Castelvetrano ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิซิลี ปี 1962 ซึ่งพ่อของเขาก็เป็นหนึ่งในมาเฟียเช่นกัน มัตเตโอเติบโตและเดินตามรอยเส้นทางของพ่อ จนกระทั่งอายุ 15 เขาก็ได้เริ่มจับปืนเป็นครั้งแรก ขณะที่ตำรวจเชื่อว่าเขาเริ่มลงมือสังหารครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี

 

รวบเจ้าพ่อมาเฟียอิตาลี หลังไล่ล่ากว่า 30 ปี

นอกจากนี้เขายังได้รับฉายาว่า ‘diabolik’ ซึ่งเป็นชื่อจากการ์ตูนเรื่อง U Siccu โดย diabolik เป็นชื่อของหัวขโมยที่ไม่เคยถูกจับตัวได้เลยสักครั้ง

ที่ผ่านมา คดีอาชญากรรมโดยฝีมือของมัตเตโอปรากฏในการพิจารณาของศาลหลายครั้ง โดยตำรวจอ้างว่าเขามีส่วนพัวพันในการวางแผนลอบสังหารผู้พิพากษาที่ต่อต้านมาเฟียอย่างจิโอวานนี ฟัลโคเน (Giovanni Falcone) และ เปาโล บอร์เซลลิโน (Paolo Borsellino) ในปี 1992

เขายังมีส่วนในเหตุระเบิดที่กรุงโรม ฟลอเรนซ์ และมิลานในปี 1993 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปนับ 10 ราย จากการขู่บีบบังให้รัฐเลิกทำสงครามกับกลุ่ม Cosa Nostra หรือแก๊งมาเฟียจากซิซิลี

นอกจากนี้มัตเตโอยังมีส่วนรู้เห็นในการลักพาตัว Giuseppe Di Matteo เด็กชายวัย 12 ปีไว้เป็นตัวประกัน เพื่อไม่ให้พ่อเด็กให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ เด็กชายวัย 12 ถูกกังขังเป็นเวลา 2 ปี ก่อนถูกปลิดชีวิตในภายหลัง