ตั้ง CEO บริษัทน้ำมันเจ้าใหญ่ของโลกนั่งตำแหน่งประธาน COP 28

สุลต่าน อัล-จาเบอร์ CEO บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี(Abu Dhabi National Oil Company: ADNOC) รวมถึงยังเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และทูตด้านสภาพอากาศ จะดำรงตำแหน่งประธานในงานประชุม COP 28 และกำหนดวาระการประชุมเพื่อเจรจาระหว่างรัฐบาลเพื่อลงฉันทามติด้านสิ่งแวดล้อม โดยเขากล่าวว่าจะนำแนวทางปฏิบัติที่ปฏิบัติได้จริงและมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเข้ามาใช้ในการประชุม

ขณะที่ Stephane Dujarric โฆษกของ U.N. ตั้งข้อสังเกตว่า เลขาธิการสหประชาชาติและสำนักเลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในการเลือกประธาน COP จากประเทศเจ้าภาพ

นอกจากนี้ยังมีความเห็นจากนักภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อมว่าการแต่งตั้ง CEO บริษัทน้ำมันเจ้าใหญ่ของโลกให้เป็นประธานผู้รับผิดชอบการเจรจา COP28 ถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างเห็นได้ชัดเจน

ไม่ต่างอะไรจากการประชุม COP 27 เมื่อปีที่แล้วที่ประเด็นการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลถูกกล่าวถึงอย่างอื้ออึงตลอดวาระการประชุม ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมกระบวนการ หรือกำหนดรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของเจ้าภาพ ซึ่งในขณะนั้นอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ส่งตัวแทนกว่า 600 คน เข้าร่วมหารือในการประชุม COP 27 ณ เมือง ชาร์ม เอล เชค ประเทศอียิปต์

“วิทยาศาสตร์นั้นชัดเจน เรากำลังพ่ายแพ้การต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศเพื่อป้องกันผลกระทบที่เลวร้าย เราไม่มีทางหลีกเลี่ยงภัยพิบัติจากสภาพอากาศได้ หากไม่หยุดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล” Dujarric กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท Masdar ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนในอาบูดาบี ที่ ADNOC ถือหุ้นอยู่ 24% สุลต่านจาเบอร์จึงมีหลักฐานใบรับรองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Credentials) นอกจากนี้ที่ผ่านมาเขายังมีส่วนในการผลักดันแนวทางแบบคาร์บอนต่ำของ ADNOC ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติเมื่อปลายปีที่แล้ว

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของกลุ่มโอเปก จะเป็นรัฐอาหรับแห่งที่สองที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมด้านสภาพอากาศ ถัดจากอียิปต์ในปี 2022

ทั้งนี้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศแรกในกลุ่มรัฐอาหรับที่ลงนามในข้อตกลงปารีส มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050