posttoday

หนังสือบันทึกฉาว คลุ้งกลิ่นคาววินด์เซอร์ 'Spare' วางแผงอย่างเป็นทางการ

11 มกราคม 2566

หลังข้อมูลจากหนังสือบันทึกความทรงจำโดยเจ้าชายแฮร์รี่ ‘Spare’ รั่วไหลผ่านการให้สัมภาษณ์ แถมยังถูกเผยแพร่ก่อนกำหนดจากความผิดพลาด ในที่สุดวันอังคารที่ 10 ม.ค. Spare ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางนักอ่านที่กระตือรือร้นหามาครองหวังรู้เรื่องลับๆของราชวงศ์

จากการเปิดเผยเนื้อหาประเด็นส่วนตัวและวิจารณ์สมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อของเขา ‘คิงชาร์ลส์’ แม่เลี้ยงอย่าง ‘คามิลล่า’ รวมถึงพี่ชายแท้ๆอย่าง ‘เจ้าชายวิลเลียม’ ส่งผลให้หนังสือ "Spare" หรือ "ตัวสำรอง" ของเจ้าชายแฮร์รี่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ขณะที่ทางด้านราชวงศ์ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆต่อประเด็นดังกล่าว

Caroline Lennon พนักงานร้านขายปลีกวัย 59 ปี หนึ่งในนักอ่านที่รอซื้อหนังสือเป็นคนแรกและเป็นเพียงคนเดียวจากร้าน Waterstone ใจกลางกรุงลอนดอน กล่าวว่า เธอชื่นชอบเจ้าชายแฮร์รี่และราชวงศ์มาก และเธอจะรีบอ่านในทันทีที่ได้มา

แม้หน้าร้าน Waterstone จะไม่มีลูกค้าเข้าคิวรอซื้อหนังสือ Spare เลยแต่ทางร้านระบุว่า มียอดสั่งจองล่วงหน้าเข้ามาก่อนแล้ว ซึ่งปัจจุบันหนังสือบันทึกความทรงจำที่เขียนโดยเจ้าชายแฮร์รี่ติดท็อปหนังสือขายดีในเว็บไซต์ Amazon ทั้งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมัน และแคนาดา

หนึ่งในนักอ่านจากสิงคโปร์กล่าวว่า “ผมรู้ว่าบางสิ่งที่เขาพูดอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด และผมก็รู้ว่ามีคนมากมายที่บอกว่าเจ้าชายแฮร์รี่ไม่ควรออกมาพูดอะไรแบบนี้ แต่ผมว่าเขาควรได้รับโอกาสให้ได้พูดในสิ่งที่เขาต้องการ”

“Spare” ถือเป็นผลงานชิ้นล่าสุดจากเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน หลังทั้งคู่ตัดสินใจสละฐานันดรศักดิ์ในปี 2020 ก่อนที่จะย้ายไปใช้ชีวิตคู่ในแคลิฟอร์เนีย และเผยผลงานสารคดี Harry & Meghan จิกกัดราชวงศ์ผ่านทาง Netflix

ก่อนหน้าที่ Spare จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เนื้อหาบางส่วนของหนังสือเล่มนี้รั่วไหลจากร้านขายหนังสือในประเทศสเปน จากความผิดพลาดด้านกำหนดการวางจำหน่าย ซึ่งเนื้อหาบางส่วนที่เล็ดลอดออกมาเจ้าชายแฮร์รี่เผยถึงการต้องสูญเสียแม่ตั้งแต่เขาอายุแค่ 12 จนต้องหันหน้าพึ่งสารเสพติด, การสังหารชาวอัฟกันไป 25 รายโดยที่เขาไม่ได้รู้สึกละอายขณะที่ยังเข้าร่วมกับกองทัพอังกฤษ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่เขาสูญเสียความบริสุทธิ์ครั้งแรก

นอกจากนี้เจ้าชายแฮร์รี่ยังเผยถึงความขัดแย้งระหว่างเขากับเจ้าชายวิลเลี่ยม รวมถึงการร้องขอไม่ให้พระบิดาแต่งงานกับคามิลล่า พระชายาองค์ปัจจุบัน

ทั้งนี้ จากการให้สัมภาษณ์กับ CBS เจ้าชายแฮร์รี่เล่าว่าคามิลล่าเป็นเหมือนตัวร้าย ชอบคาบข่าวไปให้กับหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเขาและเมแกน ขณะที่เธอพยายามกอบกู้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์อันดีให้กับตัวเธอเอง ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เธอเป็นตัวอันตราย

“ผมไม่ถือว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายหรอกนะ สิ่งที่ผมเห็นก็แค่คนคนหนึ่งที่ได้แต่งงานกับราชวงศ์แล้วเขามาอยู่ในสถาบันกษัตริย์ ซึ่งสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อสร้างชื่อและปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ตัวเอง” เจ้าชายแฮร์รี่กล่าวปิดท้าย