posttoday

คาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจได้ประโยชน์สูงสุดหลังท่องเที่ยวจีนฟื้น

07 มกราคม 2566

เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเป็นผู้นำในการยกเลิกคำสั่งห้ามการเดินทางของจีน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนต้องผ่านการตรวจ COVID-19 ก่อนเข้าสู่ยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

การที่จีนกำลังเปิดพรมแดนตั้งแต่วันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ส่งสัญญาณคลื่นนักท่องเที่ยวจำนวนมากอาจเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ หลังจากสามปีของการควบคุม COVID อย่างเข้มงวดของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก

Song Seng Wun นักเศรษฐศาสตร์ของ CIMB กล่าวว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเหล่านี้จะเลือก 'ความยุ่งยากน้อยที่สุด' และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่จำเป็นต้องตรวจ COVID ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

'ยิ่งสนามบินในภูมิภาคนี้วุ่นวายมากเท่าไร ก็ยิ่งดีต่อเศรษฐกิจของพวกเขาเท่านั้น'

ในขณะที่ออสเตรเลีย อังกฤษ อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องการผลการตรวจ COVID-19 เป็นลบจากประเทศจีน แต่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่กัมพูชาถึงอินโดนีเซียและสิงคโปร์ ได้ปฏิเสธข้อกำหนดดังกล่าวทั้งหมด

นอกจากการตรวจน้ำเสียจากเครื่องบินของมาเลเซียและไทยเพื่อหาไวรัสแล้ว 11 ประเทศในภูมิภาคนี้จะปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนเหมือนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซียกล่าวว่า

'เราจะไม่เลือกปฏิบัติต่อประเทศใด ๆ เลย'

ความสนใจในการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มชาวจีน แม้แต่ก่อนที่จะมีข่าวว่าไม่มีความจำเป็นในการตรวจ COVID  จากผลการสำรวจของ ITB China ที่เผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคมทีผ่านมา พบว่า 76% ของนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หากมีการเปิดประเทศ

ภูมิภาคนี้เป็นที่ตั้งของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งชาวจีนเคยเป็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในภูมิภาค สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าหรู และคาสิโน ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการหายไปของพวกเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ ทุกภาคส่วนกำลังเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมา

ในปี 2019 ชาวจีน 155 ล้านคนเดินทางไปต่างประเทศ ใช้เงิน 254.6 พันล้านดอลลาร์ หรือใกล้เคียงกับ GDP ของเวียดนาม ขณะที่คาดว่า การฟื้นตัวอย่างชัดเจนในการท่องเที่ยวของจีนจะเริ่มต้นในไตรมาสที่สองของปี 2023

ในเวียดนาม เกือบหนึ่งในสามของจำนวน 18 ล้านคนในปี 2019 มาจากประเทศจีน ในขณะที่ประมาณหนึ่งในห้าของผู้เดินทางระหว่างประเทศของสิงคโปร์เป็นคนจีนที่ใช้เงิน 900 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (671 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

โดยไทยคาดว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน 5 ล้านคนในปีนี้ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวน 10.99 ล้านคนในปี 2562 และมาเลเซียคาดว่านักท่องเที่ยวจีนราว 1.5-2 ล้านคนในปีนี้ เทียบกับ 3 ล้านคนก่อนเกิดโรคระบาด และสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวมาเลเซียกำลังเตรียมงานโรดโชว์ในเมืองจีนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย

รัฐบาลของประเทศต่างๆในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ค่อยให้น้ำหนักกับความกังวลด้านสุขภาพของประเทศอื่น ๆ เช่น ความกังวลของสหรัฐในเรื่องข้อมูลที่ไม่เพียงพอและความกลัวว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในจีนที่สามารถก่อให้เกิดไวรัสชนิดใหม่ได้

สิงคโปร์กล่าวว่ามีภูมิต้านทานของประชากรสูง เนื่องจากประชาชนราว 40% ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว และ 83% ได้รับการฉีดวัคซีน ขณะที่กำลังการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น นักวิชาการด้านสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮ่องกงเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว โดยเสริมว่า ทุกวัน ประเทศต่างๆนำเข้า COVID-19 จากทั่วโลกเป็นจำนวนหลายพันราย

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา ซึ่งเป็นพันธมิตรของกรุงปักกิ่งกล่าวถึงข้อกำหนดการการตรวจหาเชื้อของประเทศอื่น ๆ ว่าเป็น "โฆษณาชวนเชื่อ" ที่ออกแบบมาเพื่อ 'ทำให้คนกลัว'

ฮุนเซนกล่าวในสุนทรพจน์เมื่อไม่นานมานี้ว่า

"ไม่ว่าประเทศอื่นต้องการจะทำอะไรก็ตาม มันเป็นสิทธิของพวกเขา แต่สำหรับกัมพูชา มีแต่คำเชิญให้คนจีน: นักท่องเที่ยวจีน มาที่กัมพูชา