posttoday

การล่มสลายของคริปโตจะเป็นภัยต่อระบบการเงินหรือไม่?

12 พฤษภาคม 2565

ตลาดคริปโตร่วงหนัก บิตคอยน์ดิ่งต่ำกว่า 30,000 เหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน

Reuters รายงานว่า เมื่อวันอังคาร (10 พ.ค.) Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลกร่วงลงต่ำกว่า 30,000 เหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ขณะที่ในภาพรวมมูลค่าในตลาดของคริปโตเคอร์เรนซีหายไปเกือบ 800,000 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนที่ผ่านมาตามข้อมูลของ CoinMarketCap เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น

เมื่อเทียบกับการขึ้นดอกเบี่ยของเฟดรอบล่าสุดที่เริ่มตั้งแต่ปี 2016 คริปโตเป็นตลาดที่ใหญ่กว่ามาก ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างกันกับระบบการเงินอื่น

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีใหญ่แค่ไหน?

จากข้อมูลของ CoinGecko เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิทัลที่นิยมมากที่สุดอย่าง Bitcoin ทะยานสู่ระดับออลไทม์ไฮที่กว่า 68,000 เหรียญสหรัฐ ดันให้มูลค่าของตลาดคริปโตขยับขึ้นไปที่ 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตัวเลขนั้นลงมาอยู่ที่ 1.51 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนนี้เป็นมูลค่าของ Bitcoin เกือบ 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามด้วย Ethereum ที่ 285,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

แม้ว่าคริปโตเคอร์เรนซีจะเติบโตแบบระเบิดระเบ้อ แต่ตลาดยังค่อนข้างเล็ก ขณะที่ตลาดทุนของสหรัฐมีมูลค่าถึง 49 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงินระบุว่ามูลค่าคงค้างของตลาดตราสารหนี้สหรัฐอยู่ที่ 52.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ณ สิ้นปี 2021

ใครครอบครองและซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี?

คริปโตเคอร์เรนซีเริ่มจากการซื้อขายของรายย่อย แต่ความสนใจของสถาบันอย่าง บริษัทแลกเปลี่ยนเงินตรา บริษัทต่างๆ ธนาคาร เฮดจ์ฟันด์ และกองทุนรวมเติบโตอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันในตลาดคริปโตค่อนข้างหายาก แต่ CoinBase ผู้ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลกระบุว่า นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของสินทรัพย์บนแพลตฟอร์มของบริษัทในไตรมาสที่ 4

ลูกค้าสถาบันของ CionBase ซื้อขายคริปโตมูลค่า 1.14 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 เพิ่มจากปี 2020 ที่อยู่ที่ 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

Bitcoin และ Ethereum ที่หมุนเวียนอยู่อยู่ในมือของคนไม่กี่คนเท่านั้น รายงานของเดือน ต.ค. ของสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ (NBER) พบว่า นักลงทุน Bitcoin 10,000 คนทั้งบุคคลและนิติบุคคลควบคุม 1 ใน 3 ของตลาด Bitcoin และนักลงทุน 1,000 คนครอบครองเหรียญ Bitcoin ราว 3 ล้านเหรียญ

การวิจัยของมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า จนถึงปี 2021 ราว 14% ของชาวอเมริกันลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

การล่มสลายของคริปโตจะกระทบระบบการเงินไหม?

แม้ว่าในภาพรวมแล้วตลาดคริปโตจะค่อนข้างเล็ก แต่ธนาคารกลางสหรัฐ กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการเสถียรภาพการเงิน (FSB) ระบุว่า Stablecoin เหรียญดิจิทัลที่ตรึงมูลค่าไว้กับมูลค่าของทรัพย์สินจริงๆ เป็ยภัยคุกคามต่อเสถียรภาพการเงิน

Stablecoins ส่วนใหญ่จะใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ โดยได้รับการหนุนหลังจากสินทรัพย์ที่อาจสูญเสียมูลค่าหรือขาดสภาพคล่องในช่วงเวลาที่ตลาดตึงเครียด ในขณะที่กฎและการเปิดเผยเกี่ยวกับทรัพย์สินเหล่านั้นและสิทธิ์ในการไถ่ถอนของนักลงทุนยังคลุมเครือ

หน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งระบุว่า นั่นอาจทำให้ Stablecoin อ่อนไหวต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ตลาดตึงเครียด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ค.) เมื่อมูลค่าของ TerraUSD ที่ตรึงราคาให้มีมูลค่าเท่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอัตราส่วน 1 : 1 ร่วงมาอยู่ที่ 1 : 0.67 เหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากราคา Bitcoin ที่ร่วงลง

แม้ว่า TerraUSD จะตรึงราคากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยระบบอัลกอริทึม แต่นักลงทุนที่ดำเนินการกับ Stablecoin อื่นๆ ที่ตรึงราคากับทรัพย์สินอย่างเงินสดหรือตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้นอาจทะลักเข้าไปในระบบการเงินดั้งเดิม ส่งผลให้สินทรัพย์อ้างอิงเกิดความตึงเครียด

หน่วยงานกำกับดูแลระบุว่า ด้วยความที่ทรัพย์สมบัติของบริษัทเชื่อมโยงกับผลประกอบการของสินทรัพย์คริปโต และสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมที่เข้ามาเล่นในกลุ่มสินทรัพย์ (asset class) ความเสี่ยงอื่นๆ ก็จะเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือน มี.ค. สำนักงานบัญชีกลางสหรัฐ (OCC) เตือนว่า บรรดาธนาคารอาจผิดพลาดจากการเปิดรับอนุพันธ์คริปโตและคริปโตที่ไม่คุ้มครองความเสี่ยง เนื่องจากมีข้อมูลราคาย้อนหลังน้อย

อย่างไรก็ดี บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลยังเสียงแตกเกี่ยวกับขนาดของภัยคุกคามที่การล่มสลายของคริปโตจะมีต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจในวงกว้าง

REUTERS/Dado Ruvic/File Photo