posttoday

หนุ่มน้อยอัจฉริยะเขียนโปรแกรมสร้างงานอาร์ต รวยเละ 13 ล้าน

31 สิงหาคม 2564

เด็กชายวัย 12 ปีจากลอนดอน คว้าเงินล้านจากการเขียนโปรแกรมสร้างงานศิลปะดิจิทัล

เรื่องราวของ Benyamin Ahmed (เบนจามิน อาเหม็ด) เด็กชายวัย 12 ปีจากลอนดอนกำลังเป็นที่โด่งดังในต่างประเทศขณะนี้ หลังจากที่เขาทำเงินจากการขายผลงานศิลปะแบบดิจิทัลไปได้เกือบ 400,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12.9 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน

เริ่มเขียนโปรแกรมตั้งแต่ 5 ขวบ

เบนจามินมักใช้เวลาว่างจากการเรียนหนังสือไปกับการว่ายน้ำ ฝึกซ้อมเทควันโด และเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ด

เขาเริ่มเรียนรู้การเขียนโค้ดตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบจากการดูพ่อของเขาซึ่งเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยเริ่มต้นจาก HTML และ CSS และพัฒนาทักษะการเขียนโค้ดมาเรื่อยๆ และต่อยอดไปยัง JavaScript และโปรแกรมอื่นๆ

จนกระทั่งล่าสุดเบนจามินได้รู้จักกับ NFTs หรือ non-fungible tokens ซึ่งเขาสนใจมันเป็นอย่างมาก และตัดสินใจสร้างคอลเลกชัน NFT ของตัวเอง

"ผมศึกษามันครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้เอง และผมทึ่งกับมันมากเพราะเราสามารถโอนความเป็นเจ้าของ NFT ได้อย่างง่ายดายด้วยบล็อกเชน"

NFTs คืออะไร

NFTs หรือ non-fungible tokens เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ใช้บล็อกเชนเช่นเดียวกับคริปโต แต่ว่าแต่ละโทเคนจะมีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งไม่สามารถทำซ้ำหรือลอกเลียนได้ อาจมาในรูปแบบของภาพวาด ภาพถ่าย ภาพกราฟิก เพลง คลิปวิดีโอ หรือผลงานศิลปะอื่นๆ ในรูปแบบดิจิทัล

โดยสามารถซื้อขายเพื่อโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของผลงาน ซึ่งผลงานนั้นๆ จะมีเจ้าของเพียงคนเดียวเท่านั้น ต่อให้มีการคัดลอกผลงานต่อไปเรื่อยๆ แต่หากไม่ได้เป็นเจ้าของก็ไม่สามารถนำไปขายต่อได้ โดยสามารถเช็คได้ว่าเจ้าของผลงานนั้นๆ คือใครด้วยระบบบล็อกเชน

ทำเงินจาก NFTs

ผลงานชิ้นแรกของเบนจามินเปิดตัวเมื่อช่วงต้นฤดูร้อนที่ผ่านมาในชื่อว่า "Minecraft Yee Haa" ซึ่งแน่นอนว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Minecraft เกมในดวงใจของเด็กๆ รวมถึงเบนจามินด้วย

แม้ว่าผลงานชิ้นแรงของเบนจามินจะขายไม่ได้ในทันที แต่เด็กคนนี้มองว่าประสบการณ์ที่เขาได้รับมีค่ามากกว่าเงิน และจะยังคงทำมันต่อไป

เบนจามินตั้งใจศึกษาการเขียนโค้ดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นต่อไป โดยเรียนรู้จากออนไลน์และบรรดาโปรแกรมเมอร์ในชุมชน Discord

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเขาเริ่มเขียนโค้ดสร้างผลงาน NFT ชิ้นที่ 2 ในชื่อว่า "Weird Whales" ซึ่งมีภาพวาฬในคอลเลกชันถึง 3,350 ภาพด้วยกัน โดยแต่ละภาพมีวาฬในลักษณะแตกต่างกันออกไป

เบนจามินลงทุนกับคอลเลกชันนี้ไปประมาณ 300 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9,700 บาท) โดยส่วนใหญ่เป็นการจ่ายค่าธรรมเนียมก๊าซ (Gas Fees)

แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมานั้นคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะหลังจากเปิดตัวคอลเลกชันนี้ไปในเดือนกรกฎาคม ผลงานของเขาขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงแค่ 9 ชั่วโมงเท่านั้น

โดยเบนจามินได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญ Ethereum ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเกือบ 400,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12.9 ล้านบาท ตามราคาปัจจุบัน

มองไกลถึงอนาคต

ตอนนี้เบนจามินไม่มีบัญชีธนาคาร มีแต่กระเป๋าเงินดิจิทัล เพราะเขามองว่าในอนาคตเงินสดและบัญชีธนาคารแบบเดิมๆ อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็น

"ผมตั้งใจที่จะเก็บ Ethereum ทั้งหมดไว้ และจะไม่แปลงเป็นเงินสด...ในอนาคตบางทีทุกคนอาจไม่ต้องการบัญชีธนาคาร เพียงแค่มีเหรียญดิจิทัลและวอลเลต"

ตอนนี้เขายังคงมุ่งมั่นทำสร้างสรรค์ผลงาน NFT และคาดว่าเราจะได้เห็นผลงานของเด็กคนนี้ประสบความสำเร็จอีกมากมายในอนาคต

"ถ้าผมยังคงมุ่งมั่นต่อไป วันหนึ่งผมอาจได้เป็นเหมือนเจ้าพ่อเทคโนโลยีคนอื่นๆ อย่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) หรือเจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos)" เบนจามินกล่าว

ที่มา CNBC

ภาพโดย REUTERS/Kacper Pempel//File Photo