เอกอัครราชทูตจีนคนใหม่ ย้ำ “จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”
ทูตจีนคนใหม่เผยความรู้ความรู้สึกในการเดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่งใหม่
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ประกาศว่า ช่วงเย็นวันที่ 10 สิงหาคม นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยคนใหม่ได้เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่งท่านทูตหาน ได้กล่าวความรู้สึกว่า ประเทศจีนกับประเทศไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีสัมพันธไมตรีอันยาวนาน ปัจจุบันนี้ โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในทั่วโลก จีนกับไทยและประชาชนของทั้งสองประเทศได้ร่วมแรงร่วมใจและคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันวิเศษที่เป็น "จีนไทยครอบครัวเดียวกัน" และจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่สำหรับประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ
ต่อมา นายหาน จื้อเฉียงเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ได้เปิดเผยถ้อยแถลงหลังรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ดังนี้
"โดยการแต่งตั้งและมอบอำนาจจาก ฯพณฯ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผมได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยคนที่ 13 พร้อมกับไมตรีจิตรที่รัฐบาลและประชาชนจีนมีต่อรัฐบาลและประชาชนไทย จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงและเป็นภารกิจอันสำคัญยิ่ง" นายหาน จื้อเฉียง กล่าว
"ประเทศไทยมีภูเขาและแม่น้ำที่สวยงาม มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประชาชนโอบอ้อมอารีและสังคมปรองดอง ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอันโดดเด่น เมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นความท้าทายร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ทุกๆ วงการในสังคมไทยได้ร่วมแรงร่วมใจผนึกกำลังต่อสู้ เราย่อมจะเอาชนะกับการแพร่ระบาดของโรคได้ในที่สุด ประเทศไทยย่อมจะมีอนาคตที่สดใสรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น"
"“จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ประเทศทั้งสองมีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ มีความผูกพันทางสายเลือด วัฒนธรรมและแนวคิดผสมผสานกัน เรามีประวัติความสัมพันธ์ฉันมิตรมานานนับพันปี มีจุดเชื่อมโยงทางผลประโยชน์ที่เป็นชัยชนะร่วมกันอย่างมั่นคง และมีศักยภาพด้านการพัฒนาที่มหาศาลและสะสมมาเป็นเวลายาวนาน เวลา 46 ปีตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา เรายืนหยัดร่วมกันและก้าวหน้าด้วยกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางยุทธศาสตร์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมขยายออกไปอย่างรวดเร็ว มิตรภาพระหว่างประชาชนทวีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายให้การสนับสนุนแก่กันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักและสำคัญของอีกฝ่าย ส่งเสริมการเชื่อมต่อยุทธศาสตร์ทางการพัฒนาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ยืนหยัดผลักดันร่วมพัฒนา “สายแถบและเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง ประเทศจีนเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยติดต่อกันมาเป็นเวลา 8 ปี ในครึ่งปีแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าจีน-ไทยกลับเติบโตสวนกระแสถึง 38% ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวในไทยทะลุถึง 10 ล้านคนต่อปี คิดเป็น 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาเที่ยวประเทศไทย ความร่วมมือฉันมิตรจีน-ไทยสอดคล้องกับผลประโยชน์และรากฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงใจและแน่วแน่จากประชาชนทั้งสองประเทศ ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะผันผวนปรวนแปรเป็นอย่างไร ความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน-ไทยก็ควรพัฒนาก้าวหน้าต่อไป และย่อมสามารถพัฒนาอย่างก้าวหน้าต่อไปได้ ผมมีความมั่นใจอย่างยิ่งในเรื่องนี้"
"“ยามยากเห็นมิตรแท้” มิตรภาพจีน-ไทยที่สืบทอดมาเป็นเวลายาวนานได้ผ่านการทดสอบและได้รับการยกระดับในการร่วมต่อสู้กับโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หรือแบ่งปันประสบการณ์ในการป้องกันและรักษา ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคหน้ากากอนามัย ชุด PPE ชุดตรวจ หรือการส่งยาและวัคซีนให้ ประเทศจีนและประเทศไทยได้ปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมและสะท้อนให้เห็นถึงถึงมิตรภาพอันวิเศษที่เป็นครอบครัวเดียวกัน และจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่สำหรับประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ทั้งได้สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่สำหรับการพัฒนาของความสัมพันธ์จีน-ไทยในยุคสมัยใหม่ ในด้านการต่อสู้กับโควิด-19 หากฝ่ายไทยมีความต้องการ ฝ่ายจีนยินดีที่จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มที่โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ"
"ปีนี้เป็นปีครบรอบ 100 ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน หนึ่งศตวรรษก้าวหน้าเพื่อประชาชน โชคชะตาร่วมเพื่อความสามัคคีอันยิ่งใหญ่ เมื่อยืนอยู่จุดเริ่มต้นใหม่แห่งประวัติศาสตร์นั้น ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประชาชนจีนจะใช้ความพยายามต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อบรรลุความฝันการฟื้นฟูอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน เพื่อส่งเสริมความผาสุกของมนุษย์ และเพื่อสร้างประชาคมร่วมอนาคตของมวลมนุษยชาติ"
"การพัฒนาของประเทศจีนปราศจากโลกไม่ได้ การพัฒนาของประเทศจีนก็จะสร้างผลประโยชน์ให้โลกเช่นกัน เวลานี้เมื่อปีที่แล้ว ฯพณฯ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์จีน-ไทยมีพื้นฐานหนาแน่นและศักยภาพยิ่งใหญ่ ฝ่ายจีนยินดีที่จะร่วมกับฝ่ายไทย ผลักดันให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทยนั้นประสบความคืบหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือสำหรับประเทศในภูมิภาค รักษาแนวโน้มแห่งการพัฒนาอย่างดีของภูมิภาคต่อไป ฝ่ายจีนยินดีที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทย ปฏิบัติตามฉันทามติอันสำคัญที่บรรลุโดยผู้นำของทั้งสองประเทศ พัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมความร่วมมือทางด้านนวัตกรรม ร่วมกันสร้างอนาคตที่รุ่งโรจน์ยิ่งขึ้นของความสัมพันธ์จีน-ไทย"
"ในโอกาสนี้ ขอแสดงความเคารพอย่างสูงและขอขอบคุณอย่างจริงใจที่เพื่อนๆ ทั้งหลายจากทุกๆ วงการของประเทศไทยได้เอาใจใส่และสนับสนุนการพัฒนาของความสัมพันธ์จีน-ไทยมาโดยตลอด ขอส่งความปรารถนาดีและคำอวยพรไปยังชาวจีนโพ้นทะเลและชาวไทยเชื้อสายจีน นักศึกษาจีน และพนักงานบริษัทจีน ผมรอคอยที่จะร่วมกับท่านทั้งหลายในการแลกเปลี่ยนแนวคิด เสริมสร้างข้อเห็นพ้องกัน หารือในความร่วมมือและการพัฒนาต่อไป"


