"มินอ่องหล่าย" นายพลใกล้เกษียณคิดครองอำนาจ?
จับตาพลเอก อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา เขาคือเบื้องหลังรัฐประหารหรือไม่ หรือจะเป็น "ซอวิน" ที่จะก้าวมารับตำแหน่งต่อจากเขา?
ที่เมียนมามีกลิ่นการทำรัฐประหารโชยมาระยะหนึ่ง แต่การยึดอำนาจทำกันอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วันหลังจากองทัพปฏิเสธว่าจะไม่ทำเช่นนั้น ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ลงมือจนได้ และบุคคลเบื้องหลังคือพลเอก อาวุโส มินอ่องหล่าย (หรือ มี่นอองไลง์)
พลเอก อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาจะมีอายุครบ 65 ปีในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งตามกฎหมายของเมียนมาระบุให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและรองผู้บัญชาการเกษียณอายุราชการเมื่อมีอายุครบ 65 ปี
พลเอก อาวุโส มินอ่องหล่ายซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดในเดือนมีนาคม 2011 และกำลังจะเกษียณอายุในปีนี้อาจเลือกที่จะเกษียณอายุโดยสมัครใจ, ผันตัวลงเล่นการเมือง และหรือยืดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งก็เป็นได้
หากเขาเกษียณอายุราชการแล้วคาดว่าคนที่จะก้าวขึ้นมาคุมกองทัพแทนคือนายพลซอวิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการกองทัพบก ซึ่งมีชื่อเสียงไม่ดีนักจากปัญหาคอร์รัปชั่น
โดยก่อนการเลือกตั้งทั่วไปมินอ่องหล่ายให้สัมภาษณ์ว่า "สิ่งสำคัญประการแรกคือจัดการเลือกตั้งปี 2020 ให้สำเร็จ จากนั้นหากเกิดความไว้วางใจเราอาจต้องพิจารณาว่าเราจะมีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างไร"
ก่อนหน้านี้เขายังเคยกล่าวอีกด้วยว่าประสบการณ์ในการเป็นผู้นำทางทหารของเขาอาจเป็นประโยชน์ในทางการเมือง
อย่างไรก็ตามความพยายามในการลงเล่นการเมืองของเขาไม่ได้รับการสนับสนุนในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (Union Solidarity and Development Party: USDP) ได้รับเลือกเพียง 71 ที่นั่ง ซึ่งลดลงจากการเลือกตั้งในปี 2015 ที่ได้ถึง 117 ที่นั่ง
หมายความว่าชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ไว้วางใจในกองทัพ และไม่ต้องการให้ทหารหรือผู้รับมอบฉันทะกลับมาอีกครั้งภายใต้การแข่งขันเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม และมินอ่องหล่ายไม่มีโอกาสดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ขณะที่พรรค NLD ซึ่งได้รับ 920 ที่นั่งจากทั้งหมด 1,117 ที่นั่งก็กำลังเตรียมที่จะจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไปในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสที่มินอ่องหล่ายจะยืดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งออกไปอีก โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พลตรีซอมินตุน โฆษกกองทัพเมียนมาได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการเกษียณอายุราชการของมินอ่องหล่าย โดยระบุว่ากองทัพจะปฏิบัติภายใต้ขอบเขตของรัฐธรรมนุญปี 2008
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าทหารมีสิทธิที่จะบริหารกิจการทั้งหมดของกองทัพโดยอิสระ และให้อำนาจแก่สภาป้องกันและความมั่นคงแห่งชาติ (NDSC) ในการเสนอและอนุมัติผู้บัญชาการทหารต่อประธานาธิบดี กล่าวคือระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของผู้บัญชาการสามารถขยายได้โดยผู้นำทางทหาร
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในปี 2016 เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงตัดสินใจยืดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการทหารเป็นเวลา 5 ปี
Photo by Ye Aung THU / AFP


