posttoday

เอเปคออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องค้าขายอย่างเสรีและเป็นธรรม

21 พฤศจิกายน 2563

แถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมเอเปกครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี

ที่ประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ซึ่งจัดแบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์โดยมีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ประเทศสมาชิกเห็นพ้องต้องกันว่าควรให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และโปร่งใส เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด

นายกรัฐมนตรี มูยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซียเผยว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้คำมั่นว่าจะไม่เปลี่ยนท่าทีและจะไม่สนับสนุนมาตรการกีดกันทางการค้า โดยจะปล่อยให้ตลาดและพรมแดนเปิดกว้างระหว่างกัน

ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าร่วมการประชุมเอเปคเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 แต่ไม่มีการเปิดเผยถ้อยแถลงของทรัมป์ระหว่างการประชุม

ด้านทำเนียบขาวระบุว่า ทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐจะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เสียหายจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 รวมทั้งจะส่งเสริมความสงบเรียบร้อยและความมั่งคั่งในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกผ่านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ทำเนียบขาวยังเผยอีกว่า ทรัมป์และผู้นำเอเปคได้ลงนามในวิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 ที่กำหนดว่าวาระของที่ประชุมเอเปคจะให้ความสำคัญกับการค้าที่เสรีและเป็นธรรมไปอีก 2 ทศวรรษ

แหล่งข่าวที่ได้รับฟังถ้อยแถลงของทรัมป์ในที่ประชุมเผยว่า ทรัมป์เน้นเรื่องประเด็นภายในประเทศ รวมทั้งเอ่ยถึงความสำเร็จของตัวเองขณะดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ

ทั้งนี้ ที่ประชุมเอเปคไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในปี 2018 หลังจากการเจรจาถูกขัดขวางโดยความไม่ลงรอยกันในเรื่องการค้าและการลงทุนระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมทั้งในปี 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่ชิลีต้องยกเลิกเนื่องจากเกิดการประท้วง