จับมือบริหารการบิน เร่งจัดการจราจรทางอากาศ รับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตสูง
ไทยจับมือสิงคโปร์พัฒนาแผนจัดการทางอากาศ ลดปัญหาเที่ยวบินแออัด เล็งใช้บิ๊กดาต้าต่อยอดธุรกิจการบินเอเชียแปซิฟิก
ไทยจับมือสิงคโปร์พัฒนาแผนจัดการทางอากาศ ลดปัญหาเที่ยวบินแออัด เล็งใช้บิ๊กดาต้าต่อยอดธุรกิจการบินเอเชียแปซิฟิก
นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย หรือ บวท. เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็น เจ้าภาพจัดประชุม CANSO Asia Pacific Conference รวมถึงการประชุม CANSO Global ATM Summit ในวันที่ 7-14 มิ.ย.นี้ เพื่อผนึกกำลังพันธมิตรด้านการบินจากสมาชิกของ CANSO จาก 85 ประเทศทั่วโลก ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงทิศทางการดำเนินงานร่วมกันในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านความมั่นคง การใช้ข้อมูลการบินด้านการบริหารจราจรทางอากาศ รวมถึงร่วมกันกำหนดนโยบายของผู้ให้บริการการเดินอากาศ เพื่อรับมืออุตสาหกรรมการบินของทั่วโลกที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถือเป็นฐานการบินที่เติบโตมากที่สุด หรือเพิ่มขึ้น 50% โดยเฉพาะประเทศไทยที่คาดว่าในปีนี้จะมีปริมาณเที่ยวบินอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเที่ยวบิน ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านเที่ยวบิน และในอีก 15-20 ปี จะเพิ่มเป็น 3 ล้านเที่ยวบิน สอดรับกับการคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศ ระหว่างประเทศ หรือ IATA ที่ระบุว่าประเทศไทยจะเป็นจุดหมายปลายทางที่มีคนเดินทางมากที่สุดเป็น 1 ใน 10 อันดับของโลก
ขณะที่ประเทศจีนจะกลายเป็นตลาดการบินที่ใหญ่ที่สุดของโลก และอินโดนีเซียจะเป็นฐานการบินที่มีเที่ยวบินต้องการบินผ่านน่านฟ้ามากที่สุดอีกด้วย ประเทศในกลุ่มภูมิภาคดังกล่าวจึงต้องหาแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตของการขนส่งทางอากาศ
นางทิพาภรณ์ นิปกากร ผู้อำนวยการใหญ่ด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการจัดประชุมครั้งนี้จะมีการเจรจาถึงแนวทางความร่วมมือและการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนารูปแบบการบินในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะการวางแผนยุทธศาสตร์พัฒนาธุรกิจการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอาเซียน ซึ่งจราจรทางอากาศเริ่มมีความแออัด ดังนั้นการกำกับดูแลเส้นทางบินในภูมิภาคจึงเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับที่ผ่านมาไทยได้ร่วมมือกับสิงคโปร์และฮ่องกงเพื่อพัฒนาระบบ ปฏิบัติการจัดสภาพคล่องทางจราจรร่วมกัน ภายใต้ชื่อว่า Multi-Nodal Air Traffic Flow Management (Atfm) ซึ่งพบว่า สามารถบริหารจราจรได้คล่องตัวมากขึ้น และลดระยะเวลาการเดินทางได้อย่างมีนัยสำคัญ จนประเทศจีนและอินเดียให้ความสนใจต้องการนำระบบดังกล่าวไปใช้ทดสอบและพัฒนาร่วมกันเป็นเครือข่ายต่อไป
นอกจากนี้ จะนำเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าเข้ามาพัฒนากิจการบินในภูมิภาค ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจการบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้ผู้ประกอบการบริหารสายการบินได้ดีมากขึ้น