ผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินตกเผย ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆจากลูกเรือ

นักข่าวผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกที่คร่าชีวิตทีมนักเตะชาเปโคเอนเซให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีของบราซิล

ราฟาเอล เฮนเซล หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในโคลอมเบีย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 71 คน ออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ของบราซิล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ในรายการ Fantastico เฮนเซลกล่าวว่า ลูกเรือไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนใดๆแก่ผู้โดยสารว่ามีเหตุปกติเกิดขึ้น และไม่ได้เตือนด้วยซ้ำว่าให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัย

"ณ เวลานั้นไม่มีลูกเรือคนใดบอกให้เรารัดเข็มขัดนิรภัยด้วยซ้ำ" เฮนเซลกล่าวกับสำนักข่าว AP "พวกเราบินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

การสัมภาษณ์เกิดขึ้นที่โคลอมเบียในขณะที่เฮนเซลยังคงพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ นอกจากนั้นเขายังระบุว่าผู้โดยสารบางคนถามแอร์โฮสเตสว่า อีกนานแค่ไหนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งทางลูกเรือกล่าวว่า ไม่เกิน 10 นาที แต่แล้วทันใดนั้นเองไฟทั้งเครื่องบินก็ดับลง

เครื่องบินเช่าเหมาลำ จากสายการบินลาเมีย ไฟล์ทบิน 2933 มีกำหนดเดินทางจาก Santa Cruz ในโบลิเวีย ไปยังโคลอมเบีย ภายในเครื่องบรรทุกลูกเรือ 9 คน และผู้โดยสารอีก 68 คน ในจำนวนนี้มีทีมนักฟุตบอลชาเปโคเอนเซ จากบราซิล และเจ้าหน้าที่ทีมเดินทางมาด้วย ซึ่งทั้งหมดกำลังเดินทางไปแข่งขันฟุตบอล

เครื่องบินลำดังกล่าวตกลงในภูเขาของโคลอมเบีย ผู้โดยสารและลูกเรือเกือบทั้งหมดเสียชีวิต มีผู้รอดชีวิต 6 คน ในจำนวนนี้คือนักกีฬา 3 คน นักข่าว และลูกเรืออีก 2 คน

จากกระบวนการสืบสวนพบว่าเครื่องบินลำนี้เชื้อเพลิงหมดก่อนที่จะตกลงมา นอกจากนั้นยังพบว่าระยะทางจากต้นทางไปยังปลายทางนั้นเป็นระยะเดินทางที่ไกลเกินกว่าเชื้อเพลิงที่บรรจุในเครื่องบินจะพอให้พลังงานได้

เจ้าหน้าที่สายการบินโบลิเวีย 2 คนถูกจับกุม หนึ่งในนั้นคืออดีตนักบิน Gustavo Vargas Villegas ผู้ออกใบอนุญาตการบิน อีกคนคือเจ้าของสายการบินลาเมีย ซึ่งทั้งคู่ปฏิเสธความผิดใดๆจากข้อกล่าวหา

ผู้ต้องสงสัยคนที่ 3 คือ Celia Castedo เจ้าหน้าที่การบินหญิงซึ่งขณะนี้ลี้ภัยไปยังบราซิล เนื่องจากเธอกังวลว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมในบ้านเกิดของตน Castedo ทำหน้าที่เช็คเครื่องบินก่อนที่จะออกบิน เธออ้างว่าพบข้อเท็จจริงว่าเครื่องบินลำนี้มีเชื้อเพลิงไม่พอ แต่ถูกกดันจากผู้ใหญ่ให้ปรับเปลี่ยนเอกสารเพื่อให้เครื่องสามารถออกบินได้