posttoday

เศรษฐีกัมพูชาแห่รักษาตัว เต็มโรงพยาบาลเมืองสุรินทร์

14 ตุลาคม 2559

จากการรวบรวมข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ พบว่าปัจจุบันชาวกัมพูชาจากทั่วประเทศนิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

โดย...นพรัตน์ กิ่งแก้ว

จากการรวบรวมข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ พบว่าปัจจุบันชาวกัมพูชาจากทั่วประเทศนิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และเช่ารถยนต์ข้ามด่านชายแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อเข้ามาทำการรักษาโรคต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐบาลและเอกชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชน 2 แห่งใน จ.สุรินทร์ จะมีแต่ผู้ป่วยและญาติชาวกัมพูชามาใช้บริการจนแน่นโรงพยาบาล 

นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ผู้ประกอบการโรงพยาบาลรวมแพทย์หมออนันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีชาวกัมพูชาจากทั่วประเทศเดินทางเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลใน จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนมาก ทั้งโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลของรัฐ เนื่องจากชาวกัมพูชามีความชื่นชอบการรักษาคนไข้ของแพทย์ และพยาบาลชาวไทยที่มีความรู้ความสามารถรักษาโรคได้ ตรงตามอาการ อีกทั้งแพทย์พยาบาลใน จ.สุรินทร์ ยังสามารถพูดภาษาเขมรหรือภาษาชาวกัมพูชาได้ ทำให้คนไข้ชาวกัมพูชามีความมั่นใจในการรักษาโรค

"หากมีรถยนต์บริการ มีความสะดวกสบายมากขึ้น จะทำให้ชาวกัมพูชาข้ามแดนเข้ามาในตัว จ.สุรินทร์ มากกว่า 2 เท่าตัวอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้การจับจ่ายซื้อขายสินค้าเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะชาวกัมพูชาชื่นชอบสินค้าไทยอยู่แล้ว ส่วนบรรดาญาติๆ ของผู้ป่วยที่ติดตามมาเฝ้าไข้ ก็ถือโอกาสนี้เดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ทั้งใน จ.สุรินทร์ และอีสานใต้"

ด้าน พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลัง (กกล.) สุรนารี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กัมพูชากำหนดกรอบการทำงานด้านชายแดนขึ้นมา 5 เรื่องด้วยกัน คือ 1.เรื่องการรักษาพยาบาล ทั้งชาวไทยและกัมพูชา 2.เรื่องการศึกษา ทั้งชาวไทยและคนกัมพูชา 3.เรื่องการค้าขาย 4.เรื่องการท่องเที่ยว 5.เรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่ง กกล.สุรนารีได้สนับสนุนการเปิดช่องสายตะกูที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ช่องจอม ก็มีการพัฒนาพื้นที่ด่านช่องจอมให้มีความสวยงาม มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

นอกจากนี้ ยังพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ในเมืองให้มีความสะอาดสวยงาม ปลอดภัย ซึ่ง กกล.สุรนารีประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ สื่อมวลชน เพื่อพัฒนาพื้นที่ด้วยกัน เช่น พัฒนาสวนเฉลิมพระเกียรติ ตลาดน้ำ เพื่อเป็นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย ซึ่งทุกวันนี้ชาวกัมพูชาเข้ามารักษาพยาบาลใน จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนมาก ทำให้โรงแรม ร้านอาหาร มีรายได้ดีเป็นพิเศษ

ส่วนโรงพยาบาลของรัฐเองก็ไม่มีผลกระทบต่อการรักษา ยังมีรายได้จากการรักษาชาวกัมพูชาไม่ต่ำกว่าเดือนละ 45 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยว การค้าขายจะช่วยสร้างความเจริญให้กับ จ.สุรินทร์ อีกทั้งยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากยิ่งขึ้น ตลอดทั้งยังส่งผลที่ดีต่อความมั่นคง ความสัมพันธ์ชาวไทยกับชาวกัมพูชา

อนาคตจะพัฒนาแบบแนวทางนี้ที่ด่านถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ด่านถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี และด่านช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ดึงดูดชาวกัมพูชาเดินทางมารักษาตัว มาท่องเที่ยว ซึ่งจะก่อให้เกิดกระแสเงินสะพัดชายแดนทั้งไทยและกัมพูชา

ข่าวล่าสุด

Gemini ใน Google สู่การแปล 20 ภาษาผ่านหูฟังแบบเรียลไทม์