คนไทยในฮ่องกงเสียใจต่อข่าวการสวรรคต
การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่คนไทยทั้งในและนอกประเทศ
การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่คนไทยทั้งในและนอกประเทศ
นายเบอร์นาร์ด ชาญวุฒิ ชาน สมากชิกสภาบริหารฮ่องกง และสมาชิกครอบครัวผู้ก่อตั้งธนาคารกรุงเทพ รู้สึกเศร้าโศกเสียใจไปกับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช อย่างไรก็ตามเขามีความเชื่อว่าประเทศจะยังคงเสถียรภาพอยู่ได้ ด้วยรัฐบาลคสช.
ชานได้แสดงความคิดเห็นต่อข่าวเศร้าสลดดังกล่าวในฐานะคนไทยคนหนึ่งว่า พระเจ้าอยู่หัวเป็นที่เคารพรักของคนไทยทั้งหมด และความเคารพนับถือนั้นมากเกินกว่าที่คนต่างชาติจะจินตนาการถึงได้ ชานให้สัมภาษณ์กับ South China Morning Post
ถึงแม้ว่าพระองค์จะไม่ได้มีอำนาจในการปกครองเต็ม 100% แต่ตลอดสามสิบปีที่ผ่านมาพระองค์ได้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ และสร้างเสถียรภาพในประเทศ
นอกจากนั้นชานยังกล่าวว่าผลกระทบที่เกิดกับตลาดหุ้นไทยนั้น น่าจะเกิดเพียงชั่วคราวไม่นาน และมั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะยังคงมั่นคงและมีเสถียรภาพอยู่ภายใต้การนำโดยรัฐบาลคสช. และนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ชานคือหลานชายของชิน โสภณพนิช ผู้ก่อตั้งธนาคารกรุงเทพ พ่อของชานคือ โรบิน ชาน ลูกชายหนึ่งใน 6 คนของชิน ตัวเขานั้นถูกส่งมาอาศัยอยู่ที่ฮ่องกงตั้งแต่ปี 1960 เพราะจำเป็นต้องบริหารธุรกิจของครอบครัว
ในขณะที่ครอบครัวของเขายังคงอาศัยอยู่ในไทย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางการเมือง และธุรกิจ เช่น ป้าของเขาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในรัฐบาลสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เช่นเดียวกับประเทศไทย ข่าวการสวรรคตของพระองค์ส่งผลให้ฮ่องกงรู้สึกเศร้าตาม วิเวียน แจน คนไทยที่อาศัยในฮ่องกงวัย 26 ปีกล่าวว่า ในหลวงเปรียบเสมือนพ่อของเราทุกคน ตัวเขาไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริงเมื่อได้ยินข่าว เพราะพวกเราเคยปรารถนาว่าในหลวงจะมีอายุถึงร้อยปี
ปัจจุบันแจนทำงานอยู่ในร้านอาหารที่เกาลูน เธอเล่าว่าในหลวงทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ใจกว้าง และมีเมตตา พระองค์ทรงให้ความช่วยเหลือราษฏรที่อยู่ห่างไกล แน่นอนเธอรู้สึกไม่สบายใจตั้งแต่ได้ข่าวว่าพระองค์ทรงพระประชวร และเธอไม่คิดว่าจะไม่มีใครไม่ร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนเคารพพระองค์แม้กระทั่งตอนที่มีความขัดแย้งกัน ถ้าพระองค์ตรัสให้หยุดการปะทะกัน ทุกคนก็จะหยุด
โทรทัศน์ในร้านของเธอเชื่อมต่อกับช่องสัญญาณไทย เธอเปิดโปรแกรมรายการสารคดีของพระองค์เอาไว้ตั้งแต่สองทุ่มของเมื่อวานเป็นต้นมา
ด้าน Saner Bootdee ชาวไทยวัย 66 ปี ผู้ค้าขายผลไม้ในฮ่องกงกล่าวว่า เขารู้สึกเศร้ามากที่ได้ยินข่าว เขารู้สึกเหมือนกับประเทศสูญเสียสิ่งสำคัญไปครั้งยิ่งใหญ่ เขากล่าวว่า เขารักในหลวง และในหลวงก็ทรงรักประชาชนเช่นกัน


