วี โชว เยา สุดยอดนายแบงก์สิงคโปร์

โดย...สมหทัย โมสิกะ

หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงธุรกิจการเงินของสิงคโปร์ คือ “วี โชว เยา” อดีตซีอีโอของธนาคารยูโอบีแห่งสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันรั้งตำแหน่งประธานกิตติคุณของธนาคารวีเกิดที่หมู่เกาะจินเหมินของไต้หวัน ก่อนที่ครอบครัวจะลี้ภัยสงครามจีน-ญี่ปุ่น มาอยู่ที่มาเลเซีย และในที่สุดก็มาลงหลักปักฐานชีวิตที่สิงคโปร์

เขาเริ่มต้นชีวิตการทำงานกับธุรกิจครอบครัวตั้งแต่ปี 2492 ซึ่งทำธุรกิจค้าขายสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ยางพารา พริกไทย และแป้งสาคู โดยตอนนั้นได้ทำงานใกล้ชิดกับพ่อและได้เรียนรู้วิธีการทำธุรกิจ ตลอดจนยังรู้จักกับเพื่อนฝูง คู่ค้าของมหาเศรษฐีผู้เป็นพ่ออย่างกว้างขวาง

ในปี 2501 วีได้ก้าวขึ้นมาเป็นกรรมการบริหารที่อายุน้อยที่สุดของธนาคารยูไนเต็ด ไชนีส แบงก์ หรือยูบีซี ธุรกิจที่พ่อเขาก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2478 แม้จะมีประสบการณ์ทางธุรกิจมาอย่างช่ำชอง แต่วีก็ยังถือเป็นหน้าใหม่ในวงการการเงิน ดังนั้นเขาจึงไปเรียนรู้ระบบธุรกิจการเงินที่ธนาคารอังกฤษในกรุงลอนดอน ก่อนกลับมาทำงานกับยูบีซีอย่างเต็มตัว

วี โชว เยา

สองปีหลังจากนั้น เมื่อพ่อของเขาก้าวลงจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของธนาคาร วีก็ได้รับการแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้บริหาร ซึ่งภายใต้การนำของวี ธนาคารได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากเดิมที่ดูแลเพียงธุรกิจท้องถิ่น วีได้นำธนาคารเข้าสู่ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศ

ในปี 2507 ยูบีซีได้เปิดสาขาต่างประเทศแห่งแรกที่เกาะฮ่องกง พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “ยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์” หรือ ยูโอบี เพื่อหลีกเลี่ยงชื่อไม่ให้ซ้ำกับธนาคารที่มีอยู่ในฮ่องกงอยู่แล้ว

ณ ขณะนั้น เขาสามารถทำให้ธุรกิจการเงินเพื่อการค้าขยายตัวมากกว่า 100 เท่า หากเทียบกับยุคก่อนเขามาบริหาร อีกทั้งยังเพิ่มทุนจดทะเบียน ขยายธุรกิจเงินกู้ให้เติบโตกว่าเดิม และทำให้สินทรัพย์ของธนาคารเพิ่มขึ้นเกือบ 9 เท่า

ภายใต้การบริหารของเขา ยูโอบีได้ขยายกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างรวดเร็ว พร้อมแตกไลน์ธุรกิจทั้งการเงิน อสังหาริมทรัพย์ ประกัน ทรัสตี บริการเช่าซื้อ และอื่นๆ ก่อนจะกลายเป็นบริษัทมหาชนในปี 2513

วีได้ผลักดันให้ธุรกิจของยูโอบีเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้เข้าซื้อกิจการของหลายธนาคารทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ในช่วงที่รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเสรีภาคธนาคารและไฟเขียวให้ต่างชาติมาทำธุรกิจนี้ได้ในยุคทศวรรษ 1990 วีก็ได้ปรับโครงสร้างของยูโอบีเพื่อให้แข่งขันได้และเดินหน้าขยายอาณาจักรทั่วอาเซียน จนปัจจุบันยูโอบีคือธนาคารอันดับ 1 ของสิงคโปร์ที่มีสาขามากกว่า 500 แห่งใน 18 ประเทศทั่วโลก

สื่อต่างประเทศระบุว่า วีเป็นนักบริหารที่มีอำนาจ มีเสน่ห์ และจิตใจเข้มแข็ง อีกทั้งยังมีความเข้าใจในธุรกิจของตัวเองอย่างถ่องแท้ เห็นได้จากสมัยที่เขาบริหารงานธนาคารและต้องพบสื่อเพื่อสรุปผลการดำเนินงานในช่วงสิ้นปี วีสามารถตอบคำถามนักข่าวได้เองทุกอย่างโดยไม่ต้องพึ่งพาบันทึกใดๆ หรือถามข้อมูลจากผู้บริหารคนอื่นๆ เลย