posttoday

'ฮิลลารี คลินตัน'นำโด่งเลือกตั้งสหรัฐ 'โจ ไบเดน'ขอถอนตัว

23 ตุลาคม 2558

'ฮิลลารี คลินตัน'นำโด่งเลือกตั้งสหรัฐ 'โจ ไบเดน'ประกาศถอนตัวสู้ศึก

'ฮิลลารี คลินตัน'นำโด่งเลือกตั้งสหรัฐ 'โจ ไบเดน'ประกาศถอนตัวสู้ศึก

การคัดสรรผู้แทนของพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันของสหรัฐ เพื่อเข้าสู่สังเวียนเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะเปิดคูหากันในวันอังคารที่ 8 พ.ย.ปีหน้า เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเก็งที่จะได้เป็นตัวแทนจากฝั่งเดโมแครตนั้นกลับประกาศถอนตัวแล้ว ขณะที่ ฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ ก็กำลังมีคะแนนนิยมนำโด่งในฝั่งเดโมแครต

ไบเดนได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้อย่างแน่นอน และถึงแม้พรรครีพับลิกันจะเป็นขั้วตรงข้ามกับพรรคเดโมแครตมาตลอด แต่ก็ไม่ควรมองว่ารีพับลิกันเป็นศัตรู และทั้งสองพรรคควรทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของประเทศชาติเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างไม่เป็นทางการจากทั้งสองพรรคที่เป็นที่จับตามอง พรรคเดโมแครต ได้แก่ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศและอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 และ เบอร์นี่ แซนเดอร์ส สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเวอร์มอนต์ ขณะที่พรรครีพับลิกัน ได้แก่ เจฟ บุช น้องชายและลูกชายของอดีตประธานาธิบดีบุชทั้งสองท่าน และมหาเศรษฐีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์

บัด แจ็คสัน นักยุทธศาสตร์ประจำพรรคเดโมแครต ระบุว่า การสละสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งของไบเดน ถือเป็นการเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ที่ฮิลลารีจะคว้าชัยครั้งนี้ ก่อนหน้าการประกาศอย่างเป็นทางการของไบเดน พบว่า ยอดบริจาคเพื่อการหาเสียงเลือกตั้งของฮิลลารีไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนัก แต่หลังจากการประกาศดังกล่าว ผู้ที่เคยสนับสนุนไบเดน 12 ราย หันมาสนับสนุนฮิลลารีแทน ในขณะที่ 15 จาก 27 ราย ยังไม่แน่ใจว่าจะสนับสนุนฮิลลารีหรือไม่

นอกจากนั้น ทันทีเมื่อไบเดนประกาศถอนตัวจากการชิงชัยในครั้งนี้ คะแนนนิยมเฉพาะภายในพรรคของฮิลลารีก็เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 45% ไปเป็น 56% ทันที ขณะที่ความนิยมของแซนเดอร์สเพิ่มขึ้นจาก 29% เป็น 33%

ฮิลลารีถือเป็นตัวเต็งจากพรรคเดโมแครต ประเด็นสำคัญในการรณรงค์หาเสียง คือ การให้ความสำคัญกับชนชั้นกลางมากขึ้น ขึ้นภาษีเศรษฐี และลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคม นอกจากนี้ยังคัดค้านการตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) โดยชี้ให้เห็นว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่น่าจะมีบทบาทในการเพิ่มค่าจ้างและยกระดับความมั่นคงของประเทศ และโดนโจมตีจากประเด็นที่ใช้อีเมลส่วนตัว

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของฮิลลารี คือ อลัน ไบลน์เดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธาน โพรมอนเทอรี่ อินเตอร์ไฟแนนเชียล เน็ตเวิร์ก สถาบันการเงินในวอลสตรีท อดีตรองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน นอกจากนี้ยังมีที่ปรึกษาด้านดังกล่าวอีกราว 200 คน

ด้าน เบอร์นี่ แซนเดอร์ส ผู้ลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต อีกรายที่ได้รับคะแนนความนิยมตีตื้นฮิลลารี หลังประกาศตัวว่าเป็นนักอุดมการณ์ฝ่ายซ้ายสังคมนิยม เน้นให้ความสำคัญชนชั้นกลางและล่างเป็นหลัก ปฏิเสธทุนนิยม ต่อต้านวอลสตรีท และจะขึ้นภาษีบรรดาเศรษฐีเช่นเดียวกับฮิลลารี โดยที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของแซนเดอร์ส คือ พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ที่ให้ความสำคัญกับชนชั้นกลางและสวัสดิการของรัฐ และโจเซฟ สติกลิทซ์ ผู้เขียนหนังสือราคาของความเหลื่อมล้ำ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า หากแซนเดอร์สชนะการเลือกตั้ง ครุกแมนจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนต่อไป

ตัวเต็งจากฟากรีพับลิกันอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ เศรษฐีนักธุรกิจผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก โดยเสียงส่วนใหญ่กว่า 42% คาดว่าทรัมป์จะเป็นตัวแทนพรรคลงชิงชัยในครั้งนี้ และ 43% คาดว่าทรัมป์มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ทั้งนี้ ประเด็นหาเสียงของทรัมป์ คือ คัดค้านการรับผู้อพยพชาวซีเรียเข้าประเทศ สนับสนุนกฎหมายควบคุมอาวุธปืน เสริมความแข็งแกร่งแก่กองทัพ สร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก ยับยั้งแผนนิวเคลียร์ของอิหร่าน และให้คำมั่นว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจากความตกต่ำ โดยจะฟื้นฟูการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศให้แตะ 3% ให้ได้ อีกทั้งยังเปิดเผยตัวเลขการว่างงานว่าพุ่งสูงถึง 20% ไม่ใช่ 5.6% ตามรายงานของรัฐบาล

เจฟ บุช ผู้สมัครคู่แข่งทรัมป์ จากผลสำรวจระบุคะแนนนิยมของเจฟลดลง สวนทางทรัมป์ที่แซงหน้าขึ้นมา ทั้งนี้ เจฟชูนโยบายส่งเสริมสิทธิสตรี ชนกลุ่มน้อย และคนพิการ โดยเจฟได้รับการสนับสนุนจากวอลสตรีท ได้แก่ โกลด์แมน แซคส์, เอชเอสบีซี, เจพี มอร์แกน เชส, แบงก์ ออฟ อเมริกา, ซิตี้ กรุ๊ป, เครดิต สวิส, มอร์แกน สแตนเลย์ และยูบีเอส ที่บริจาคเงินให้บุชราว 1 แสนเหรียญสหรัฐ

ข่าวล่าสุด

แข้งไทยช็อก! นำ 2 ตุง กลับพลิกแพ้ เวียดนาม 2-3 แค่รองแชมป์ซีเกมส์