กองพล 9 จัดทีมสำรวจชายแดน หนุนเปิดด่านเจดีย์สามองค์

โดย...ปิยรัชต์ จงเจริญ

ด่านเจดีย์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แม้ปัจจุบันจะยังมีสถานะเป็นแค่จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-พม่า โดยฝั่งตรงข้ามคือเมืองพญาตองซู ตลาดการค้าชายแดนแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของพม่า แต่มูลค่าการค้าชายแดนร่วมกันของทั้งสองประเทศก็สูงถึงปีละกว่า 3,000 ล้านบาท และมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจฝั่งพม่า

แม้จะมีการผลักดันจากหลายฝ่ายเพื่อยกระดับด่านเจดีย์สามองค์-พญาตองซู เป็นจุดผ่านแดนถาวร แต่ก็ยังไม่คืบหน้ามากนัก ด้านหนึ่งอาจเพราะกาญจนบุรีมีด่านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงไปยังโครงการ ท่าเรือน้ำลึกทวายอยู่แล้ว

แต่เหตุผลที่หลายฝ่ายพยายามผลักดันด่านเจดีย์สามองค์เป็นจุดผ่านแดนถาวรก็เนื่องจากเส้นทางจากพญาตองซูเข้าไปในพม่า สามารถเชื่อมโยงต่อไปได้ถึงเขตมะละแหม่ง เมาะตะมะ และเข้าสู่ย่างกุ้ง ศูนย์กลางเศรษฐกิจของพม่า ซึ่งเป็นการพัฒนาไปพร้อมๆ กับเส้นทางแม่สอด-เมียวดี-ผาอัน-กอกาเรก-มะละแหม่ง ด้านเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จ.ตาก

สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (เนดา) เป็นองค์กรหนึ่งที่เห็นความสำคัญของโครงการนี้ และได้เริ่มโครงการการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดงานก่อสร้างถนนจากด่านเจดีย์สามองค์-พญาตองซู เชื่อมโยงต่อไปยังทันพยูไซยัค (ช่วงท้ายหมู่บ้านพญาตองซู-บ้านช่องสูง) นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือศึกษาโครงการความช่วยเหลือเพื่อก่อสร้างอาคารด่านชายแดนในฝั่งพม่า เพื่อพัฒนาและยกระดับการค้าชายแดน และการค้าข้ามแดน ผ่านทางช่องทางนี้

ล่าสุด พล.ต.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการให้ความเห็นการเปิดด่านชายแดน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจช่องทางตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกไทย-พม่า กันเป็นประจำ ซึ่งมี 3 ช่องทาง คือ ด้านช่องทางหกพันไร่ ช่องทางเขากลอนโด และช่องทางด่านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อเตรียมเปิดเป็นจุดผ่านแดนด่านถาวร เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในเร็วๆ นี้

“เดิมทีช่องทางพระเจดีย์สามองค์ เปิดเป็นช่องทางผ่อนปรนทางการค้าชายแดนที่พ่อค้าได้ใช้ช่องทางนี้ค้าขายมาเป็นเวลานานแล้ว ในแต่ละปีมียอดการนำเข้า-ส่งออก ประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่หากสามารถเปิดเป็นด่านถาวรได้ ก็จะส่งผลให้การค้าและการท่องเที่ยวมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีทางด้านเศรษฐกิจ”

เป็นคำยืนยันถึงศักยภาพของพื้นที่ชายแดนอีกจุดหนึ่ง ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้การค้าขายให้กับประเทศไทยในอนาคต