ผู้ใช้เน็ตร่วมสืบข้ามทวีป ไอโฟนหายจากสหรัฐโผล่จีน
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกันช่วยหนุ่มสหรัฐที่ทำไอโฟนสูญหายจนพบว่าไปโผล่อยู่ที่ประเทศจีน
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกันช่วยหนุ่มสหรัฐที่ทำไอโฟนสูญหายจนพบว่าไปโผล่อยู่ที่ประเทศจีน
พลังของโซเชียลเน็ตเวิร์คสร้างปรากฏการณ์ชวนอึ้งได้เสมอ ดังกระแสจากผู้ใช้งาน เว่ยปั๋ว สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของจีน ที่กำลังเฝ้าติดตามเรื่องราวของหนุ่มอเมริกันรายหนึ่งที่ทำสมาร์ทโฟนหาย แต่กลับพบว่าโทรศัพท์ของเขาถูกใช้งานอยู่ในประเทศจีน จนส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในเวลานี้กลายเป็นคนดังที่มีคนรู้จักมากกว่า 30 ล้านคนทั่วโลกในช่วงไม่ถึงสัปดาห์!
เรื่องราวดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ แมตต์ สโตเปรา ลองเข้าบัญชีผู้ใช้งาน iCloud ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับไอโฟนของเขาที่ถูกขโมยไปตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีที่แล้ว จึงได้พบเรื่องประหลาดคือ พบรูปแปลกๆ จำนวนมากที่เขาไม่ได้ถ่ายเองปรากฏในแอคเคาท์ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปชายชาวเอเชียแปลกหน้ารายหนึ่งถ่ายรูปคู่กับต้นส้ม ซึ่งเขามั่นใจว่าต้องเป็นบุคคลที่กำลังใช้งานไอโฟนที่หายไปของเขาแน่ๆ
ภาพต่างๆ ยังคงปรากฏใน iCloud ของสโตเปราอย่างต่อเนื่อง เขาจึงติดต่อไปยังศูนย์บริการเพื่อขอข้อมูลการเข้าใช้บัญชีของเขา แต่ก็ไม่ได้ความคืบหน้ามากนัก หนุ่มนิวยอร์กเลยโพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเขาในเว็บ BuzzFeed โดยที่ไม่ได้หวังว่าจะได้ทรัพย์สินที่หายไปคืนมาหรือจะได้รับการตอบรับอะไรมากมาย
ทว่า ผ่านไปเพียงข้ามคืน ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตก็ติดต่อเข้ามาหาเป็นจำนวนมาก โดยบอกว่า เรื่องราวของเขากับชายนิรนามที่ได้ชื่อเรียกว่า “ลุงส้ม” กำลังเป็นที่โด่งดังในโซเชียลเน็ตเวิร์คของจีน ทั้งนี้ก็เป็นเพราะมีผู้ตั้งข้อสังเกตจากภาพถ่ายว่า ลุงส้มน่าจะเป็นชาวจีน และยังช่วยแกะรอยหา จนไม่นานก็มีผู้ชี้เบาะแสว่าชายที่กำลังครอบครองไอโฟนน่าจะอยู่ในเมืองเหม่ยโจว มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งใกล้เคียงกับสถานที่ที่ปรากฏในภาพต่างๆ
สโตเปรารู้สึกประหลาดใจอย่างท่วมท้น กับกองทัพข้อมูลออนไลน์จากความร่วมแรงร่วมใจของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังแปลกพิลึกที่สมาร์ทโฟนของเขาหายในย่านแมนฮัตตัน แต่ข้ามโลกไปโผล่ใช้งานในจีน
จากนั้น เขาต้องอึ้งยิ่งกว่า เมื่อมีผู้ส่งภาพไอโฟนของเขา พร้อมข้อความระบุว่า “ไอโฟนถูกแจ้งหาย ให้ติดต่อกลับ” ซึ่งผู้ส่งภาพคือหลานชายของลุงส้มที่ได้อ่านเรื่องราวนี้เข้าเหมือนกัน!
ในเวลาต่อมา สโตเปราตัดสินใจเปิดบัญชีเว่ยปั๋ว เพื่อติดต่อกับลุงส้ม (ต่อมา สมาชิกสังคมออนไลน์แนะนำให้เรียกเขาว่า พี่ชายส้ม) หลังจากที่ทั้งคู่ติดต่อกันได้สำเร็จ หนุ่มจากสหรัฐตัดสินใจเดินทางไปเยือนจีน
เหตุการณ์ที่ดำเนินไปแบบเรียลไทม์นี้ยิ่งเพิ่มจำนวนผู้ติดตามมากขึ้น เฉพาะในเว่ยปั๋วที่เดียว มีผู้เข้าชมเรื่องราวมากกว่า 30 ล้านคน ซึ่งพวกเขาแทบจะลืมเหตุลักขโมยหรือทรัพย์สินสูญหายไปแล้ว แต่กลับหันมาสนใจเรื่องราวที่เหมือนพรหมลิขิตให้คนได้มาเจอกัน โดยต่างยินดีต้อนรับการมาเยือนของหนุ่มมะกันในวันที่ 5 เดือนหน้า และยังต้องลุ้นกันต่อ เนื่องจากล่าสุดเจ้าตัวได้รับวีซ่าเข้าแดนมังกรล่าช้ากว่าที่ตั้งใจไว้


