สหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบันฯ แจ้งความ "ฮุน เซน" ฐานเป็นอาชญากรสงคราม
สหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบันฯ และ อาชีวะมีนบุรี เข้าแจ้งความ"ฮุน เซน" "ฮุน มาเนต" และ "มาลี" ฐานเป็นอาชญากรสงคราม
ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และ กลุ่มอาชีวะมีนบุรี เข้าเเจ้งความ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา,นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา, พ.ท.หญิง มาลี โสเชียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศไทยด้วยการส่งข้อมูลให้อัยการตรวจสอบ ว่าบุคคลทั้ง 3 คนมีการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทยหรือไม่ หากพบความผิดก็ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด และร้องขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง เพื่อจับกุมบุคคลทั้ง 3 มาดำเนินคดี ฐานเป็นอาชญากรสงคราม
นายราเชน ตระกูลเวียง ประธานสหพันธ์ฯ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับทั้ง 3 คนนี้ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพ เพราะปัจจุบันมีวีรบุรุษทหารไทยที่ต้องสูญเสียชีวิตแล้วกว่า 20 คน และยังมีที่สูญเสียอวัยวะอีก พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และนายฮุน เซน ไม่เคยรักษาสัจจะวาจา ไม่ว่าจะเป็นในการประชุม GBC หรือการประชุมอะไรก็แล้วแต่ ยิ่งมีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายกมาเลเซียเป็นตัวกลางสักขีพยานให้หยุดยิง ให้เก็บกู้ระเบิด แต่สุดท้ายกัมพูชาก็ยิงใส่ไทยทันที และยังไปออกข่าวว่าถูกไทยรุกราน ซึ่งไม่ยุติธรรม ไทยต่างหากที่เป็นผู้ถูกรุกราน ดังนั้นขอให้ทุกภาคส่วนดำเนินการกับกัมพูชาอย่างเต็มที่ ทั้งฝ่ายกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ยืนยันว่า แม้ตามปกติบุคคลสำคัญของประเทศจะมีเอกสิทธิ์คุ้มกัน แต่อย่างไรก็ตามฮุน เซนและพวก เข้าข่ายเป็นอาชญากรสงคราม และการสู้รบตลอด 10 วันที่ผ่านมา ไม่มีชาติใดประท้วงการกระทำของประเทศไทย หมายความว่าประชาคมโลกเห็นด้วยกับการกระทำของไทย ดังนั้นไทยต้องฉวยโอกาสนี้จัดการกัมพูชาให้ราบคาบในทุกมิติ มิฉะนั้นไทยเราจะพลาดท่าเสียโอกาส อย่าคิดว่าไทยเป็นพี่ใหญ่ไปรังแกน้องเล็ก เพราะกัมพูชาจะกลายเป็นหอกข้างแคร่
นอกจากนี้นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่พยายามเข้ามาเป็นคนกลางนั้น ไม่อยู่ในสายตาตัวเอง เพราะล่าสุดก็มีข้อมูลว่าได้เอาอาวุธเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จีนขายให้มาเลเซีย แต่กลายเป็นว่าอาวุธดังกล่าวไปโผล่ที่กัมพูชา และนายอันวาร์ยังมีความพยายามเข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งครั้งนี้ โดยทำให้ไทยเสียประโยชน์ตั้งแต่การลงนามครั้งแรกที่ให้ไทยหยุดยิง จนไทยต้องเสียปราสาทตาควายไป ดังนั้นขอให้นายอันวาร์อยู่เฉยๆ ดีกว่า
นอกจากนี้กลุ่มมวลชนที่เข้าแจ้งความวันนี้ ยังเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านวัยรุ่นกัมพูชาที่มีพฤติกรรมเหยียดหยามคนไทยในประเทศไทย ซึ่งนายธนเดช ศรีสงคราม หรือ "ม่อน อาชีวะมีนบุรี" ได้แสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่กลุ่มวัยรุ่นกัมพูชากว่า 10 คนขว้างระเบิด และนำอาวุธมีดมาท้าทายวัยรุ่นไทย ไว้ว่า มีหลายเหตุการณ์ที่วัยรุ่นชาวกัมพูชาเหยียดหยามคนไทย ทั้งฉีกธนบัตร เหยียบธงชาติไทย ซึ่งสมควรถูกดำเนินคดี จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการ เพราะกลุ่มอาชีวะฯ ไม่อยากดำเนินการเอง อีกทั้งเชื่อว่าตำรวจไทยเก่ง ไม่นานก็จะจับกุมตัวได้ทั้งหมด หลังจับกุมผู้ก่อเหตุไปแล้ว 3 คน พร้อมยืนยันคนไทยเป็นคนใจดี อดทนอดกลั้น แต่ถ้าเมื่อใดความอดทนถึงขีดสุด ชาวกัมพูชาที่สร้างความวุ่นวายเหล่านี้จะอยู่ในประเทศไทยลำบาก


