ทึ่ง!พบร่างพระจีนนั่งสมาธิซ่อนในรูปปั้นพันปี
พบประติมากรรมของจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง อายุเกือบพันปี มีร่างพระสงฆ์จีนซ่อนอยู่ภายใน คาดละสังขารด้วยท่านั่งสมาธิ
พบประติมากรรมของจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง อายุเกือบพันปี มีร่างพระสงฆ์จีนซ่อนอยู่ภายใน คาดละสังขารด้วยท่านั่งสมาธิ
เมื่อ 2 ปีก่อนนักสะสมงานศิลปะชาวเนเธอร์แลนด์รายหนึ่ง ได้ซื้อประติมากรรมรูปพระภิกษุนั่งสมาธิศิลปะจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง อายุเกือบ 1,000 ปี แล้วมอบให้กับพิพิธภัณฑ์เดรนท์ในเมืองอัสเซน ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะและโบราณวัตถุจากทั่วโลก กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ทางพิพิธภัณพ์เดรนท์ได้ตกลงให้ยืมประติมากรรมนี้ไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งฮังการี ในกรุงบูดาเปสต์
ก่อนที่จะมีการส่งมอบ ได้มีการนำประติมากรรมนี้ไปทำซีทีสแกนและใช้กล้องขนาดจิ๋วสอดเข้าไป เพื่อตรวจสอบว่าภายในประกอบด้วยอะไร และมีโครงสร้างเป็นเช่นไร
แต่แล้ว ภาพที่ปรากฏในจอมอนิเตอร์ทำให้ผู้ที่พบเห็นอดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะภายในประติมากรรมนี้ กลับปรากฏโครงร่างของมนุษย์ซ่อนอยู่ภายใน ประกอบด้วยโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะที่สมบูรณ์ ทั้งยังอยู่ในท่านั่งเหมือนกับรูปปั้นด้านนอก ราวกับร่างนี้ถูกสวมครอบทับลงไป
จากการตรวจสอบพบว่า พระสงฆ์เจ้าของร่างคือ พระหลิวฉวน มีชีวิตระหว่างศตวรรษที่ 11-12 เป็นพระสงฆ์ในฝ่ายวิปัสสนา จึงไม่น่าแปลกใจที่นักวิจัยจะสันนิษฐานว่า ท่านน่าจะละสังขารในท่านั่งสมาธิ เนื่องจากกระดูกสันหลังตั้งตรงอย่างมั่นคง แต่ร่างเอนมาข้างหน้าเล็กน้อย ส่วนอวัยวะภายในไม่หลงเหลือแล้ว มีเพียงกระดาษเขียนอักษรจีนซุกซ่อนไว้
ตามธรรมเนียมของชาวพุทธจีน หากพระสงฆ์ละสังขารด้วยการนั่งสมาธิ มักเชื่อกันว่า ท่านได้บรรลุภูมิธรรมขั้นสูง และหากเก็บร่างไว้ระยะหนึ่งแล้วไม่ปรากฏการเน่าเปื่อย บรรดาศิษยานุศิษย์จะทำการ "ห่อร่าง" ด้วยการใช้ผ้าพันไว้ด้านนอกแล้วเคลือบผิวด้วยยางรัก จากนั้นจะปิดทองจนทั่ว ตกแต่งใบหน้าและรายละเอียดที่เหลือ เพื่อเก็บรักษาไว้บูชาชั่วกาลนาน
อย่างไรก็ตาม ร่างไม่เน่าเปื่อยของพระรูปสำคัญในจีนได้ถูกเผาทำลายจนเกือบหมดในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม คงเหลืออยู่ในจีนเพียงไม่กี่รูป และที่น่าเหลือเชื่อก็คือหนึ่งในนั้นเหลือรอดจากการทำลายล้าง เพราะได้ถูกขนย้ายมายังต่างประเทศ
คาดว่ารูปเหมือนของพระหลิวฉวน ใช้วิธีการสร้างและเก็บรักษาที่ต่างออกไป ทำให้เล็ดลอดจากการทำลายล้าง นับเป็นร่างสังขารในประติมากรรมเพียงชิ้นเดียวในโลก และยังเป็นร่างมัมมี่จากจีนเพียงร่างเดียว ที่ตกอยู่ในมือของนักวิจัยชาวตะวันตก
ที่มา หนังสือพิมพ์M2F


