ผ่าแผน "แม่ประนอม"

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

แม่ประนอม เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่รู้จักกันดีในตลาดโลก เพราะติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้ส่งออกกลุ่มซอสปรุงรสรายใหญ่ของโลก และกำลังให้น้ำหนักตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ธนาภรณ์ ภาษาประเทศ ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทย แม่ประนอม ทายาทรุ่น 3 ตั้งเป้าว่า ภายใน ไม่เกิน 5 ปี จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์แม่ประนอมให้ได้ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% ของยอดขายรวมทั้งหมด

โดยหลังจากนี้จะขยายตลาดไปยังประเทศในแถบตะวันออกกลางมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าและทำตลาดให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในภูมิภาค

“ตลาดตะวันออกกลางมีศักยภาพสูง เพราะ ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ ที่สำคัญประเทศเหล่านี้มี แรงงานคนไทยและเพื่อนบ้านอาเซียนเข้าไปทำงานก่อสร้างอยู่จำนวนมาก อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของแม่ประนอมเองก็ได้รับมาตรฐานฮาลาลแล้ว น่าจะเจาะตลาดได้ไม่ยากนัก”

ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าแผนการตลาด เพื่อ ตอกย้ำแบรนด์แม่ประนอมในตลาดยุโรปให้เข้มข้นขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทุกปีให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดอาเซียนที่ยังขยายตัวได้อีกมาก เพราะมีช่องทางเล็กๆ ให้แทรกเข้าไปได้อีก

หากโฟกัสเฉพาะตลาดอาเซียน ถือเป็นตลาด ส่งออกหลักของแม่ประนอม เพราะสินค้าที่ส่งออกไปต่างประเทศ 40% เป็นตลาดอาเซียน 50% และ ในแต่ละปีตลาดอาเซียนเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20%

ธนาภรณ์ ตั้งเป้าว่า หลังรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 จะดันการเติบโตของตลาดอาเซียนเป็น 40% ผ่านแผนยุทธศาสตร์ 3 ด้านคือ 1.ผลักดันการทำตลาดในแต่ละประเทศร่วมกับคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายในรูปแบบใหม่ๆ ให้มากและถี่ขึ้น 2.รักษาฐานลูกค้าเก่า พร้อมกับหาสินค้าใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า และ 3.แตกไลน์สินค้าใหม่ (ซิสเตอร์ แบรนด์) ให้ครอบคลุมความ ต้องการของผู้บริโภคทั้งตลาดบน กลางและล่าง

“ต้นปี 2558 แม่ประนอมจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นสินค้าในกลุ่มพร้อมทาน (Ready to eat) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคอาเซียนที่นิยมรับประทานอาหารกึ่งสำเร็จรูป มากขึ้น รวมทั้งมีแผนจะแตกไลน์การผลิต สินค้าใหม่ เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ผู้บริโภค เบื้องต้น น่าจะเป็นกลุ่มซอสปรุงรส”

ทั้งนี้ แม่ประนอมมีผลิตภัณฑ์ 5 ประเภท ได้แก่ น้ำพริกสำเร็จรูป น้ำจิ้ม น้ำพริกแกง น้ำพริกเผาและเครื่องปรุงสำเร็จ ส่วนที่ทำยอดขายมากที่สุด คือ น้ำพริกเผาและน้ำจิ้มไก่ มียอดส่งออกเฉลี่ยปีละ 2,000-3,000 ตู้คอนเทนเนอร์ บางช่วงสูงถึง 5,000 ตู้คอนเทนเนอร์ แต่ก็ไม่มีปัญหาในการผลิต เพราะบริษัทวางแผนรองรับความต้องการในแต่ละเดือนไว้แล้ว ทั้งยังมีแผนจะขยายกำลังการผลิตของโรงงาน เพื่อรองรับยอดขายที่น่าจะเพิ่มขึ้น รวมทั้งไลน์การผลิตสินค้าใหม่ๆ คาดว่าภายใน 5 ปีน่าจะเห็นเป็นรูปธรรม

การบุกตลาดอาเซียน จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละประเทศให้ดีก่อนว่า ชอบกินอาหารประเภทไหน และอะไรเป็นจุดที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ เพื่อนำข้อมูลมาเป็นแผนการตลาด การเปิดเออีซีนอกจากจะเป็นโอกาสในการขยายตลาดของผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังทำให้การแข่งขันสูงขึ้นจากแบรนด์ใหม่ๆ ซึ่งก็ต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานการผลิต และสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้า เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้