posttoday

ต่างชาติวิพากษ์รัฐประหารไทยเร่งยุติปัญหา ร้องทหารคืนอำนาจ

24 พฤษภาคม 2557

สองวันหลังรัฐประหาร รัฐบาลนานาประเทศและสื่อต่างชาติแทบทุกสำนักต่างออกรายงาน

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

สองวันหลังรัฐประหาร รัฐบาลนานาประเทศและสื่อต่างชาติแทบทุกสำนักต่างออกรายงานเกาะติดสถานการณ์ความคืบหน้าทางการเมืองของประเทศไทย รวมถึงแสดงความวิตกห่วงใย โดยส่วนใหญ่ค่อนข้างกังวลต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการยึดอำนาจของทหารในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ชอบธรรม

ทั้งนี้ คริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวอ้างคำพูดของ จอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับบีบีซี ว่าการทำรัฐประหารของไทยไม่มีความชอบธรรม พร้อมเรียกร้องให้คืนอำนาจให้กับผู้นำฝ่ายพลเรือนและคืนเสรีภาพให้กับสื่อ ก่อนเสริมว่า สหรัฐยังขอให้มีการทบทวนความช่วยเหลือไทย โดยเฉพาะด้านการทหาร

ข้อเรียกร้องของสหรัฐสอดคล้องกับ วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ซึ่งระบุว่า ต้องการให้คืนอำนาจบริหารสู่รัฐบาลพลเรือนโดยเร็ว พร้อมแนะว่า ไทยจะสามารถมุ่งไปข้างหน้าและแก้ปัญหาได้ลุล่วงด้วยการหารืออย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ขณะที่ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส แถลงเร่งไทยให้จัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด

ด้าน จูเลีย บิชอบ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย แสดงความวิตกที่มีรัฐประหารเพียง 2 วัน หลังการใช้กฎอัยการศึก โดยต้องการให้ทหารอธิบายเหตุผล และกำลังทบทวนความสัมพันธ์กับไทย

ส่วน เมอร์เรย์ แมคคัลลีย์ รัฐมนตรีต่างประเทศนิวซีแลนด์ ระบุชัดว่า การกักตัวผู้นำการเมืองฝ่ายต่างๆ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และการรัฐประหารรังแต่จะทำให้การเมืองไทยวิกฤตมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลของหลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ต่างห่วงใยและรู้สึกเสียใจต่อการรัฐประหารที่เกิดขึ้นในไทย โดย หงเล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน คาดหวังว่าไทยจะกลับคืนสู่ความปกติ เช่นเดียวกับ ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ที่เรียกร้องให้ไทยคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว

ขณะที่ฝ่ายอินโดนีเซียและมาเลเซีย นอกจากจะแสดงความห่วงใยแล้ว ยังเปิดเผยอีกว่า จะติดตามสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนนักท่องเที่ยวให้ชะลอการเดินทางมายังไทย โดย มาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย เสนอแนวทางให้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เข้าไปมีบทบาทแก้ปัญหาการเมืองไทย เพื่อป้องกันผลกระทบต่ออาเซียนโดยรวม

ทางฟากสื่อต่างชาติหลายสำนัก ส่วนใหญ่รายงานสอดคล้องกันว่า แม้จะเกิดการรัฐประหาร แต่การดำเนินชีวิตของคนไทยยังคงเป็นไปอย่างปกติ โดยแทบจะมองไม่เห็นด่านทหารภายในบริเวณศูนย์กลางเมือง ยกเว้นบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงหรือเป็นพื้นที่สำคัญทางราชการ

อย่างไรก็ดี สื่อต่างชาติรายงานอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ ซึ่งมองว่าการรัฐประหารนี้ จะทำลายความน่าเชื่อถือและส่งผลเสียหายรุนแรงต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

กระนั้น กระแสความเห็นของนักวิเคราะห์หลายสำนักกลับเห็นตรงกันว่า การรัฐประหารค่อนข้างถูกจังหวะ เนื่องจากไทยเผชิญความขัดแย้งทางการเมืองที่ไร้ทางออกมานานหลายเดือน จึงน่าจะเป็นหนทางยุติเหตุวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้น

มาร์ค โมเบียส ประธานบริหาร เทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ กรุ๊ป ระบุว่า การรัฐประหารขณะนี้ทำให้ไทยเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งตรงกับความต้องการของนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ ขณะที่ ศานเจย์ มาธุร์ นักวิเคราะห์ของธนาคารรอยัล แบงก์ ของสกอตแลนด์ กรุ๊ป ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยค่อนข้างดี ทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มจะฟื้นตัว โดยสิ่งที่สำคัญสำหรับไทยต่อจากนี้ก็คือ การหาทางฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ

อย่างไรก็ตาม หย่งหัวพู หัวหน้าการลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแห่งยูบีเอส เวลธ์ แมเนจเมนท์ ในฮ่องกง ระบุชัดว่า ยังต้องจับตาทิศทางค่าเงินบาทและตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิด เพราะต้องติดตามว่าทางกองทัพจะส่งผ่านอำนาจไปยังรัฐบาลชุดใหม่ได้ราบรื่นหรือไม่ ขณะที่การรัฐประหารเป็นเพียงปัจจัยบวกต่อเสถียรภาพของไทยเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น

ข่าวล่าสุด

กัมพูชาเปิดฉากยิงช่องอานม้า ฝ่ายไทยสูญเสีย ยังปะทะเดือด