นายพลเขมรหวั่นเหตุรุนแรง หลังศาลโลกตัดสิน

บีบีซีจับตาผลคำพิพากษา ศาลโลกกรณีเขตแดนโดยรอบปราสาทเขาพระวิหารวันนี้  ด้านนายพลเขมร ห่วงอาจเกิดความรุนแรงตามแนวชายแดน เหตุกลุ่มชาตินิยมปลุกเร้า

สำนักข่าวบีบีซีจากอังกฤษ ติดตามความคืบหน้าของกรณีที่ศาลโลกจะมีคำพิพากษาข้อพิพาทเขตแดนโดยรอบตัว ปราสาทเขาพระวิหารระหว่างไทย กับ กัมพูชาที่จะมีขึ้นในวันนี้ ช่วงเย็นตามเวลาประเทศไทย  โดยล่าสุด พล.อ. สรัย ดึ๊ก รองเสนาธิการร่วมกองบัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา เผยกับสื่อชื่อดังของอังกฤษว่า หลังจากมีคำตัดสินออกมาในวันนี้แล้ว เจ้าตัวคาดหวังว่าจะไม่มีปัญหาทางหารกับฝ่ายทหารของไทย พร้อมกับย้ำว่าไม่ได้เสริมกำลังทหารสนับสนุนเข้าไปในพื้นที่ตัวปราสาทเขาพระวิหารตามที่ตกเป็นข่าว

อย่างไรก็ พล.อ.สรัย  ดึ๊ก หวั่นเกรงว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงตามหมู่บ้านที่อยู่ตามชายแดน โยเฉพาะการปลุกปั่นกระแสของกลุ่มชาตินิยม

ขณะที่ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เปิดเผยว่าจะปฏิเสธการยอมรับอำนาจการตัดสินของศาลโลก อีกทั้งทางกลุ่มได้ยื่นเรื่องหนังสือถึงสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในการแสดงเจตนารมณ์เพื่อปฏิเสธที่จะรับอำนาจของศาลโลกอีกด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารกัมพูชา ที่อยู่ติดชายแดนไทย ได้เรียกประชุมฉุกเฉิน หลังจากพบว่าเครื่องบินทหารของฝ่ายไทยบินอยู่ในระดับต่ำ โดยวนเวียนอยู่ใกล้กับพื้นที่พิพาท และตัวปราสาทเขาพระวิหาร

ทั้งนี้ ข้อพิพาทด้านพรมแดนดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องที่ย้อนไปถึงในปี 1962 ที่ศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้ตัดสินว่าพื้นที่โดยรอบตกเป็นของใคร ทำให้อีกหลายสิบปีต่อมาเมื่อทางกัมพูชา ต้องการขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลก ในปี 2008 จึงไม่สามารถทำได้ เพราะไม่สามารถยื่นแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบได้ เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าเป็นของใคร

 อีกทั้ง ที่ผ่านมาประเด็นดังกล่าวได้ถูกยกระดับไปสู่ความรุนแรงและความขัดแย้งระหว่าง กัมพูชา กับ ไทยอีกด้วย โดยในปี 2011 ทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากปะทะกันตามแนวชายแดนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และประชาชนอีกนับแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

ดังนั้น กัมพูชาจึงยื่นให้ศาลโลกตีตามในปี 2011  แม้ว่าต่อมาทั้งสองฝ่ายจะยอมถอนทหารออกจากพื้นที่ความขัดแย้งแล้วก็ตาม