posttoday

ญี่ปุ่นลุยสร้างกำแพงกันน้ำรับน้ำท่วมหนักในรอบ 200 ปี

02 มิถุนายน 2556

ญี่ปุ่นสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำ รับมือภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะรุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปีข้างหน้า

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

ญี่ปุ่นสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำ รับมือภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะรุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปีข้างหน้า

สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและระดับอุณหภูมิของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้แนวป้องกันน้ำท่วมของกรุงโตเกียวในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการปกป้องมหานครแห่งนี้อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีรายงานคาดการณ์ว่าเมืองหลวงที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในอีก 200 ปีข้างหน้า และจะสร้างความเสียหายมากมายมหาศาลมากกว่าพายุแซนดีที่พัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ

ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์อธิบายว่า สาเหตุที่ทำให้กรุงโตเกียวอยู่ในสภาพเสี่ยง นอกจากจะมาจากปัญหาโลกร้อนที่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นแล้ว ชัยภูมิที่ตั้งของกรุงโตเกียวยังถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้อยู่ในความเสี่ยงมากกว่าเมืองหลวงหรือมหานครอื่นๆ

เพราะกรุงโตเกียวขนาบด้วยแม่น้ำทั้งทางตะวันออกและตะวันตก แถมยังมีแม่น้ำพาดผ่านตอนกลาง ทำให้ถ้าเกิดน้ำท่วมใหญ่ตามที่คำนวณกันไว้ ความเสียหายจากมหาอุทกภัยจะมีมูลค่าสูงถึง 33 ล้านล้านเยน (ราว 9.97 ล้านล้านบาท) มากกว่ามูลค่าเงินช่วยเหลือชดเชยความเสียหายที่เกิดจากพายุแซนดี ซึ่งอยู่ที่ 6.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.75 ล้านล้านบาท) ถึง 5 เท่าตัว

โทรุ สุเอโอกะ ประธานสมาคมธรณีเทคนิคแห่งญี่ปุ่น ยอมรับว่า แม้กรุงโตเกียวจะวางมาตรการรับมือน้ำท่วม และจัดการสร้างกำแพงป้องกันน้ำ รวมถึงวางผังเส้นทางระบายน้ำมาตั้งแต่อดีตและพัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน แต่การเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดเงื่อนไขผิดปกติมากขึ้น จนมาตรการที่มีอยู่ดูจะไม่เพียงพออีกต่อไป

“ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องยกระดับแนวป้องกันน้ำ ก่อนที่เมืองหลายแห่งจะไม่สามารถรับมือกับภัยน้ำท่วมได้อีกต่อไป” สุเอโอกะ กล่าว

ความวิตกข้างต้นสอดคล้องกับรายงานจากเวิลด์แบงก์ในหัวข้อเรื่องเมืองกับน้ำท่วม ที่ระบุว่า ปี 2551 ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ครึ่งหนึ่งของประชากรโลกอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองและจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% ในปี 2573 ซึ่งหมายความว่า กรณีที่เกิดน้ำท่วมเมืองหลายแห่งของโลกจะต้องเผชิญกับการสูญเสีย ทั้งในเรื่องของชีวิตคนและต้นทุนทางเศรษฐกิจจากน้ำท่วม

สำหรับกรุงโตเกียว หน่วยงานรัฐประเมินไว้ว่า ถ้าแม่น้ำอารากาวะ แม่น้ำสายหลักเอ่อท่วมและพังถล่มตลิ่ง ชาวญี่ปุ่นประมาณ 2,000 คน อาจต้องสังเวยชีวิตให้กับเหตุน้ำท่วม ขณะที่ประชาชนอีกราว 8.6 แสนคน จะอยู่ในสภาพเกยตื้น และระบบขนส่งจะไม่สามารถใช้งานได้ทันที

นาโอมาสะ ทาจิฮาระ ผู้อำนวยการแผนกโยธาธิการและผังเมืองประจำเขตเอโดกาวะ หนึ่งในเขตที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโตเกียว และเป็นเขตที่เสี่ยงต่อภัยน้ำท่วมมากที่สุด เพราะมีแม่น้ำสายหลักขนาบ แถมหันหน้าเข้าหาอ่าวโตเกียว กล่าวว่า ขณะนี้ทางเขตได้เริ่มคำนวณเงินงบประมาณที่ต้องใช้สำหรับการปรับปรุงแนวคันกั้นน้ำบริเวณตลิ่งริมแม่น้ำอารากาวะและแม่น้ำเอโดกะวะ โดยจะอยู่ที่ประมาณ 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.93 หมื่นล้านบาท)

“ถ้าหากไม่สร้างคันกั้นน้ำเอาไว้ 70% ของเขตเอโดกาวะจะอยู่ใต้น้ำทันทีถ้าต้องประสบกับพายุ” ทาจิฮาระ กล่าว ก่อนปิดท้ายว่่า สิ่งที่ญี่ปุ่นทำอยู่คือการเตรียมพร้อมเพื่ออนาคต

ทั้งนี้ แม้ปริมาณเงินที่ลงทุนจะมหาศาล แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ่มค้ากว่าการใช้เงินมาคอยจัดการแก้ไขทีหลัง โดยข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลเตรียมใช้งบประมาณ 1 ล้านล้านเยน เพื่อยกระดับการป้องกันภัยธรรมชาติทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงภัยน้ำท่วมแล้ว

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้ลงมือสร้างโครงการช่องทางระบายน้ำใต้ดินบนพื้นที่รอบนอก ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียวราว 40 กิโลเมตร โดยช่องทางแห่งนี้มีความสูงที่สามารถตั้งอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพได้อย่างสบายๆ และมีพื้นที่ขนาดใหญ่พอจะบรรจุวิหารพาร์เธนอนได้ถึง 4 หลัง เพื่อให้ทางระบายน้ำใต้ดินสามารถรองรับน้ำจากแม่น้ำ 5 สายหลักของกรุงโตเกียว

หน้าที่หลักของช่องทางระบายน้ำความยาว 6.3 กิโลเมตรคือ การลำเลียงน้ำมาไว้ยังอ่างเก็บน้ำใต้ดิน ซึ่งติดตั้งปั๊มน้ำขนาดใหญ่ที่ปั๊มน้ำออกได้มากถึง 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทาคาชิ โคมิยามะ ผู้จัดการโครงการดังกล่าวที่ใช้งบประมาณไปแล้ว 2.3 แสนล้านเยน (ราว 6.95 หมื่นล้านบาท) กล่าวว่า ปริมาณน้ำท่วมในพื้นที่ลดลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ที่เริ่มลงมือสร้าง

ขณะที่ สุเอโอกะ ตัวแทนจากสมาคมธรณีเทคนิค กล่าวว่า ญี่ปุ่นเคยเตรียมตัวรับมือกับปริมาณน้ำฝนที่ประมาณ 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง แต่ขณะนี้ญี่ปุ่นจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณน้ำฝนที่สูงถึง 100-200 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง

“มันเป็นเรื่องยากที่จะคิดวางแผนรับมือไปไกลถึง 100 หรือ 200 ปี เพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ แต่ถึงกระนั้น มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ” สุเอโอกะ กล่าว

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!