เท็กซัสฟ้องกูเกิ้ล เก็บข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ขออนุญาต
เท็กซัสฟ้อง Google ทำผิดกฎหมาย โดยอ้างว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีเจ้านี้ เก็บข้อมูลทั้งการจดจำใบหน้าและเสียงของผู้คนหลายล้านคนในเท็กซัส โดยที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้ให้ความยินยอม
Ken Paxton อัยการสูงสุดของเท็กซัสกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า Google กำลังละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐเท็กซัส ว่าด้วยเรื่องผู้ใช้งานต้องได้รับการแจ้งเตือนและอนุมัติให้ความยินยอมก่อนจึงสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ จากคำฟ้องที่ถูกยื่นต่อศาลในมิดแลนด์ เมืองทางตะวันตกของรัฐเท็กซัส
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทาง Google จัดเก็บทั้งข้อมูลเสียงและใบหน้าของผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นบางชนิด เช่น Google Assistant หรือ Google Photos ซึ่งไม่ใช่แค่ประชาชนในรัฐเท็กซัส แต่ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับสิ่งนี้ รวมถึงบรรดาเด็กและผู้สูงอายุ ที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าถูก Google นำข้อมูลที่รวบรวมได้ไปใช้แสวงหาผลประโยชน์สร้างกำไรให้กับบริษัท
ทาง Google ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าจะปกป้องตัวเองอย่างถึงที่สุดในชั้นศาล การฟ้องร้องในคดีนี้ทำให้เกิดความเข้าใจที่บิดเบือนต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท Google Photos ช่วยจัดระเบียบรูปภาพ โดยจัดกลุ่มจากใบหน้าที่มีความคล้ายคลึงกัน ผู้ใช้จึงสามารถค้นหารูปถ่ายเก่าๆได้อย่างง่ายดาย และทาง Google ไม่ได้ใช้รูปถ่ายหรือคลิปวิดีโอใดๆใน Google Photos เพื่อแสวงหารายได้กับโฆษณา เช่นเดียวกันกับ Google Assistant
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Google เพิ่งจ่ายค่าเสียหายมูลค่า 85 ล้านดอลลาร์เพื่อจบคดีจากการถูกฟ้องร้องในรัฐแอริโซน่าว่า Google พยายามจัดเก็บข้อมูลโลเคชั่นของผู้ใช้งาน แม้ว่าผู้ใช้จะพยายามปิดการใช้งานในฟีเจอร์ดังกล่าวไปแล้วก็ตาม ในคำร้องยังเสริมว่า Google ได้ขายข้อมูลพวกนี้และสร้างกำไรให้กับบริษัทได้หลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่ง Google ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา
เท็กซัสเป็นเพียงไม่กี่รัฐในสหรัฐอเมริกาที่ร่างกฎหมายความเป็นส่วนตัวผ่านและบังคับใช้อย่างเคร่งครัด


