การเมืองโลกป่วนทำบาร์บี้ถูกแบน
รัฐบาลอิหร่านสั่งแบนตุ๊กตาบาร์บี้ระบุเป็นตัวทำลายค่านิยม ผู้ค้าโอดเป็นผลจากการเมืองระดับประเทศ
รัฐบาลอิหร่านสั่งแบนตุ๊กตาบาร์บี้ระบุเป็นตัวทำลายค่านิยม ผู้ค้าโอดเป็นผลจากการเมืองระดับประเทศ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บางครั้งเรื่องเกี่ยวกับของเล่นเด็กๆ อย่าง ตุ๊กตา “บาร์บี้” บางครั้งก็กลายมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองระดับประเทศไปเสียได้
เพราะเมื่อเจ้าของร้านขายของเล่นในกรุงเตหะรานของอิหร่าน ได้ออกมาเปิดเผยให้คนทั่วโลกได้ชวนตะลึงว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลด้านศีลธรรมนายหนึ่งบุกเข้ามาในร้านของตน พร้อมกับสั่งให้เจ้าตัวนำเอาตุ๊กตา “บาร์บี้” ออกมาจากชั้นวางขายและนำเอาไปทิ้งเสีย
พร้อมให้เหตุผลว่า ตุ๊กตาเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมของชาติตะวันตก และเป็นตัวทำลายค่านิยมอันดีงามในแบบอิสลามอีกด้วย
หลังจากถูกสั่ง เจ้าของร้านก็รู้สึกมึนงงไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะถือสาเอาความกับตุ๊กตาของเด็กผู้หญิงมากถึงเพียงนี้ แต่เจ้าตัวก็พร้อมยินดีทำตามแต่โดยดี เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาตามมาภายหลัง
ทั้งนี้ เจ้าของร้านเล่าว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น ก็ไม่เคยมีการจับหรือว่ากล่าวใดๆ จากทางเจ้าหน้าที่รัฐเลย แม้ว่าการขายตุ๊กตาบาร์บี้นั้นจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในอิหร่าน ที่ว่าด้วยสิ่งที่ไม่ดีงามต่อศาสนาอิสลาม ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2539 ก็ตามที
การออกมาปราบปรามที่เข้มงวดมากจนดูผิดหูผิดตาขึ้นนั้น ทำให้เจ้าของร้านขายของเล่นออกโรงวิเคราะห์อย่างฉะฉานว่า อาจเป็นเพราะผลพวงจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก หลังจากที่อิหร่านถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการงดการนำเข้าน้ำมันและการยุติการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารกลางอิหร่าน เพื่อกดดันอิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของตน
ในขณะที่รัฐบาลอิหร่านเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ด้วยการพยายามงัดกลวิธีต่างๆ ขึ้นมาสู้ เช่น การขู่ปิดช่องแคบเฮอร์มูซ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งน้ำมันหลักแห่งหนึ่งของโลก การออกเดินสายเยือนกลุ่มประเทศที่ไม่เอาตะวันตกเพื่อหาแนวร่วม ดังนั้น การสั่งปราบและกำจัดตุ๊กตาบาร์บี้ตามร้านของเล่น จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามตอบโต้ตะวันตกของรัฐบาลอิหร่าน
ด้วยเหตุนี้เอง ตุ๊กตาบาร์บี้ที่แสนน่ารักจึงต้องกลายเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำจากพิษภัยทางการเมืองระดับโลกแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวไปด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะถูกห้ามอย่างจริงจังมากขึ้น แต่เจ้าตัวก็ยังกระซิบบอกว่า ทุกวันนี้ก็ยังแอบขายให้กับลูกค้าอยู่เหมือนเดิม เพราะมีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่ยังให้ความสนใจอยู่ และไม่สนใจกับข้อห้ามที่มีขึ้น
เจ้าของร้านเผยอีกว่า เมื่อไม่กี่ปีก่อน ทางการอิหร่านพยายามออกตุ๊กตาคู่หญิงชายที่มีชื่อว่า ดอลกับดารา ออกมาแข่งเพื่อกลบกระแสความต้องการหาซื้อบาร์บี้ของเด็กๆ ในอิหร่าน แต่ความพยายามก็ล้มเหลว เพราะหน้าตาของตุ๊กตานั้นช่างดูอัปลักษณ์เหลือเกิน
พ่อของเด็กคนหนึ่ง กล่าวว่า ตุ๊กตาดอลกับดาราของทางการอิหร่านไม่เป็นที่สนใจในสายตาของลูกสาว และลูกสาวตนก็ยังรบเร้าให้หาซื้อตุ๊กตาบาร์บี้มาให้ ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องตามใจลูก แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า การซื้อ “บาร์บี้” ในอิหร่านนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ช่างน่าสงสารตุ๊กตาบาร์บี้เจ้ากรรมจริงๆ ที่ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของรัฐบาลอิหร่านไปด้วย


