posttoday

ไทยจมน้ำจุดวิกฤตอาหารอาเซียน

02 พฤศจิกายน 2554

พื้นที่เพาะปลูกอู่ข้าวอู่น้ำเสียหายเสี่ยงขาดแคลน-ราคากระฉูด

พื้นที่เพาะปลูกอู่ข้าวอู่น้ำเสียหายเสี่ยงขาดแคลน-ราคากระฉูด

สื่อนอกเตือน พิษน้ำท่วมอาเซียนอาจทำราคาอาหารพุ่งสูง ด้านสื่อมาเลย์ชี้ อุทกภัยไทยสะท้อนปัญหาโลกร้อนเข้าขั้นวิกฤต

สำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา รายงานโดยอ้างนักวิเคราะห์หลายสำนักว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสี่ยงต่อการเผชิญภาวะราคาอาหารพุ่งสูง ภายหลังวิกฤตอุทกภัยสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่พื้นที่การเกษตรสำคัญในภูมิภาค โดยเฉพาะในไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก

รายงานระบุว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นอู่ข้าวสำคัญของโลกและเป็นภูมิภาคที่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยครั้งรุนแรงสุดในรอบหลายปี โดยขณะนี้พื้นที่ปลูกข้าวในไทยถูกทำลายราว 12% ในฟิลิปปินส์ราว 6% กัมพูชา 12% ส่วนในลาวและเวียดนาม พื้นที่เพาะปลูกข้าวถูกทำลายราว 7.5% และ 0.4% ตามลำดับ

ความเสียหายครั้งนี้อาจส่งผลให้ทั้งภูมิภาคต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารรุนแรง ซึ่งจะยิ่งดันราคาอาหารให้สูงขึ้น โดยผู้ค้าข้าวคาดการณ์ว่าราคาข้าวจะพุ่งสูงขึ้นแตะ 750 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากราคาปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 650 เหรียญสหรัฐต่อตัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าข้าวรายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยนามจากมาเลเซียกลับมองว่า ราคาข้าวน่าจะพุ่งเกินตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้วิกฤตน้ำท่วมในไทยและในประเทศอาเซียนอื่นๆ ส่อเค้าทวีความรุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ในเบื้องต้น

ด้าน หยาง ราซาลี คาซิม ผู้เชี่ยวด้านอาหารจากมหาวิทยาลัยนันยางของสิงคโปร์ ระบุว่า วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้จะส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินระดับความรุนแรงของปัญหาดังกล่าวได้

วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ของมาเลเซีย รายงานว่า วิกฤตน้ำท่วมครั้งรุนแรงในไทย สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาโลกร้อนซึ่งกำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

รายงานระบุว่า แม้นักวิทยาศาสตร์จะไม่กล้าฟันธงว่า วิกฤตอุทกภัยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกโดยตรง แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าอิทธิพลของภาวะโลกร้อนจะก่อให้เกิดอุทกภัยถี่ขึ้น และขณะเดียวกันจะมีความรุนแรงในระดับสูงมากขึ้น

นักวิเคราะห์จึงมองว่า เหตุน้ำท่วมในไทยควรเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้หันแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจังมากขึ้น

 

ข่าวล่าสุด

สนง.สลากฯ ชูยุทธศาสตร์ปี 69 ลดสลากใบ เพิ่มสลากดิจิทัล–N3 คุมสมดุลตลาด