ซินแสดังเขียนจม.เปิดผนึกแนะธัมมชโยมอบตัว
ซินแสเข่งเขียนจดหมายเปิดผนึกแนะพระธัมมชโยมอบตัวอย่าเป็นหุ่นเชิดให้ใคร มั่นใจบริวารพาหนีอยู่ในวัด ชี้ให้รัฐบาลคสช.-ดีเอสไอจับคนบงการวางแผนก่อน
ซินแสเข่งเขียนจดหมายเปิดผนึกแนะพระธัมมชโยมอบตัวอย่าเป็นหุ่นเชิดให้ใคร มั่นใจบริวารพาหนีอยู่ในวัด ชี้ให้รัฐบาลคสช.-ดีเอสไอจับคนบงการวางแผนก่อน
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.60 นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือ ซินแสเข่ง ซินแสชื่อดังได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในเนื้อหาระบุว่าอยากให้มอบตัวดีกว่าหลบซ่อน เพราะสิ่งที่ทำไม่ใช่ความสุข และเชื่อว่าที่ต้องหลบซ่อนเพราะบริวารกำลังเสียผลประโยชน์ พระธัมมชโยถือเป็นแค่ตัวหนังตะลุงตัวหนึ่งที่เขาเอามาเป็นเพียงตัวเชิดว่าต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ หรือเป็นเพียงดาราคนหนึ่งที่ต้องถูกเชิดด้วยผู้กำกับ
“ท่านไม่ได้มีความสุขจากโลกภายนอก ความสุขจากการที่ได้เดินทางไปไหนมาไหน ความสุขกับธรรมชาติของประเทศไทย ที่ต้องเหมือนกับการที่จะต้องปิดตัวเอง หลบโลกภายนอกอันศิวิไลซ์ ได้เป็นเพียงแค่ตัวชูโรงที่หาความสุขส่วนตัวไม่ได้เลย และผมก็เชื่อว่าท่านก็คงอยู่ไม่ได้นานไม่มีทางจะเป็นอมตะได้หรอก แล้วจะทำเพื่ออะไร คิดดูว่าอีกไม่นานชีวิตก็ล่มสลายตายแล้วจะหลบหนีไปทำไม ประเทศนี้ก็ไม่ใช่เป็นของท่านแล้ว จะทรมานตนเพื่อหลบๆซ่อนๆเพื่ออะไร ทุกชีวิตไม่มีใครมีอภิสิทธิ์ที่จะทำอะไรให้ได้ได้ดั่งใจที่ปารถนาเพราะคิดว่าตนเองจะใหญ่ได้” เนื้อหาในจดหมายระบุ
นายชนม์ทรรศน์ เปิดเผยว่า ท่านธัมชโยไม่ได้หนีเองมีพรรคพวกพาหนี อาจจะบอกว่าโดนจับต้องติดคุกหัวโตนะถ้าไม่หนี เพราะเชื่อว่าท่านไม่มีทางรู้เรื่องโลกภายนอกอะไรเลย เนื่องจากมีพวกสมุนเท่านั้นที่จัดระบบจัดการพาหนี เพราะบริวารรู้ดีว่ากำลังจะเสียผลประโยชน์ยอมให้จับไม่ได้เด็ดขาด ฉะนั้น การต่อสู้ทุกขั้นตอนจึงมีการวางแผนอย่างเด็ดขาด และเชื่อว่าคนที่วางแผนก็ทำหน้าที่เดินอยู่ตรวจตราหน้าบริเวณสมรภูมิอย่างชัดเจนที่ไม่เปิดเผยตัวซึ่งมีทั้งพระและฆราวาส
นายชนม์ทรรศน์ กล่าวว่า การจัดการทุกระบบจึงมีการวางแผนอย่างช่ำชองในการปกป้องคุ้มครองป้องกันมาตุภูมิกองบัญชาการซึ่งที่มีทั้งพระหนุ่ม พระแก่ เณร ผู้หญิง คนแก่ชาวบ้านที่เสียผลประโยชน์และคนที่ศรัทธาในความยิ่งใหญ่ โดยส่วนไหนจ้างที่ต้องจ้างก็จ้าง ส่วนไหนเป็นความศรัทธาก็สบายไปไม่ต้องจ้างให้เสียผลประโยชน์
“งานนี้รัฐบาลน่าจะต้องออกแรงต่อสู้กันอีกยาวนาน สงสารแต่ชาวบ้านที่มีความศรัทธาไม่รู้ความตื้นลึกหนาบางของลัทธินี้ หรือพระบางรูปบางองค์ที่ศรัทธาเพราะเคยได้รับบริจาคข้าวน้ำ และเงินสนับสนุนเพื่อสร้างอำนาจบริวาร จึงเป็นงานใหญ่ที่รัฐบาลต้องรอบครอบ เพราะมีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนที่ศรัทธากำลังจับตา เพราะถ้าหากพลาด พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล หรือดีเอสไอพลาดเท่ากับต้องเสียกับเสีย”นายชนม์ทรรศน์ กล่าว
นายชนม์ทรรศน์ กล่าวและว่า แต่ถ้าจำเป็นจะต้องทำก็ต้องทำให้กฎหมายบ้านเมืองศักดิ์สิทธิ์ และไม่ให้ศาสนาพุทธ กลายเป็นลัทธิ ที่สร้างความงมงายให้กับชาติบ้านเมือง และต้องไม่ให้งานนี้ต้องเสียที จะบอกว่างานนี้ต้องจับคนบงการวางแผนก่อนที่จะจับพระธัมมชโย ซึ่งมีหน้าที่เดินควบคุมอยู่รอบวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นทั้งพระ และฆราวาสที่มีทั้งออกตัวและไม่ออกตัว ถึงจะจับตัวพระธัมมชโยได้ ควรวางแผนจับจากนอกเข้าหาในแล้วจะได้ตัวพระธัมมชโยก็อาจจะมีการกระทบบ้าง


