กรุงเทพฯ คว้าแชมป์โลก! สุดยอดเมืองสำหรับ 'คนทำงานทางไกล'
กรุงเทพฯ ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก เมืองที่ดีที่สุดสำหรับ ‘คนทำงานทางไกล’ จากจุดเด่นเน็ตเร็วปรื๋อ ค่าครองชีพสุดคุ้ม วิวสวยบาดใจ ครบเครื่องทุกไลฟ์สไตล์
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานทางไกล (Remote Work) จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ New York Post สหรัฐอเมริกา
โดยกรุงเทพฯ คว้าอันดับ 1 ด้วยคะแนน 69.98 เต็ม 100 คะแนน ด้วยจุดเด่นด้านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล
อันดับ 2 ตกเป็นของ บูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย ด้วยคะแนน 65.62 ซึ่งเมืองในยุโรปตะวันออกแห่งนี้โดดเด่นในเรื่องการเข้าถึงวีซ่าทำงานทางไกลที่ง่ายที่สุด
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
การจัดอันดับนี้มาจากดัชนีที่จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก QR Code Generator ซึ่งพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ต, ค่าครองชีพ, การเข้าถึงวีซ่าทำงานทางไกล, และคุณภาพชีวิตโดยรวม
เสน่ห์ไทยดึงดูดใจคนทำงานทางไกลบ้าน
กรุงเทพฯ นำเสนอไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว วัดวาอารามอันงดงาม, อาหารรสเลิศหลากหลาย, และชีวิตริมถนนที่คึกคัก
ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใจผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเมืองใหญ่อื่นๆ ทั่วโลก
แนวโน้มการทำงานทางไกลที่เติบโต
หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา การทำงานทางไกลได้กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ผู้คนจำนวนมากมองหาเมืองที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ซึ่งกรุงเทพฯ ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ
รัฐบาลไทยเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวและการทำงานทางไกล
นางสาวศศิกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยได้เดินหน้ายกระดับการท่องเที่ยวเพื่อรองรับกลุ่มนักเดินทางยุคใหม่
โดยได้ขยายจำนวนประเทศ/ดินแดนที่สามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (ฟรีวีซ่า) เป็น 93 แห่ง และสามารถพำนักได้ไม่เกิน 60 วัน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกวีซ่าประเภทใหม่ "Destination Thailand Visa (DTV)" เพื่อตอบโจทย์ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย
ควบคู่ไปกับการทำงานทางไกล หรือเข้าร่วมกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและการแพทย์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยตลอดทั้งปี


