TOPS x Moo Deng & Friends ต่อยอด Soft Power ‘หมูเด้งฟีเวอร์’

ต่อยอดปรากฏการณ์ Soft Power  ‘หมูเด้งฟีเวอร์’ ท็อปส์ จับมือสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมฉลองหมูเด้งอายุครบ 4 เดือน พร้อมคืนกำไรให้สังคม ภายใต้แคมเปญ “TOPS x Moo Deng & Friends” รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสนับสนุนการอนุรักษ์สัตว์ป่าของไทย 

กระแสหมูเด้งฟีเวอร์ เริ่มต้นจากคุณเบนซ์ อรรถพล ผู้ดูแลหมูเด้ง ที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียสร้างคอนเทนต์จนทำให้ฮิปโปแคระ “หมูเด้ง” กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนต่างต่อยอดกระแสหมูเด้งฟีเวอร์ จนทำให้สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรีของไทยกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงปลายปี 2024 ได้อย่างมหาศาล

ตัวเลขด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีที่ได้ประกาศในปีนี้ โกยรายได้ให้ประเทศเป็นอันดับ 3 ด้วยเม็ดเงินกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่อันดับ 2 คือจังหวัดภูเก็ต และกรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 1 ซึ่งจากเดิมรายได้ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี อาจมาจากโซนพัทยาและศรีราชาเป็นหลัก

แต่ในปัจจุบัน สวนสัตว์เปิดเขาเขียวกลายเป็นสถานที่แห่งใหม่ที่สร้างเม็ดเงินให้กับการท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมากที่สุดอันดับ 1 คือรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในความท้าทายของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว คือการทำให้กระแสของสัตว์ทุกชนิดเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่มีลูกสัตว์ตัวน้อยน่ารักเกิดใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมสัตว์ชนิดอื่นๆด้วย นอกเหนือจากหมูเด้งที่กำลังเป็นกระแสฟีเวอร์

ทางนักข่าวของ Posttoday ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และคุณเบนซ์ อรรถพล พี่เลี้ยงผู้ดูแลหมูเด้ง โดยเมื่อถามคุณณรงวิทย์ว่า รู้สึกอย่างไรเมื่อทราบกระแสว่าน้องหมูเด้ง กลายเป็น Soft Power ใหม่ของไทย จากเดิมเมื่อพูดถึง Soft Power ของไทย คนส่วนใหญ่อาจนึกถึงวัดวาอาราม มวยไทย หรือศิลปวัฒนธรรมไทย

คุณณรงวิทย์ ชดช้อย ให้ความเห็นว่า ตนไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะกลายเป็นกระแสขนาดนี้ เพราะแค่ต้องการสร้างความรับรู้ว่าบทบาทและภารกิจหลักๆของสวนสัตว์มีอะไรบ้างนอกจากอนุรักษ์ วิจัย ให้การศึกษา และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนสัตว์เป็นที่อนุรักษ์สัตว์ป่านอกถิ่นอาศัย ซึ่งหลักจากอนุรักษ์แล้ว สัตว์เริ่มมีจำนวนมาก เราก็สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ นี่คือภารกิจหลักของสวนสัตว์

ส่วนกระแสหมูเด้งฟีเวอร์ที่ดังไกลไปทั่วโลก คาดว่ามาจากชื่อ “หมูเด้ง” และพฤติกรรมของเขาที่ดันสอดคล้องกับชื่อนั่นเอง

เมื่อถามว่า ในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวแห่งนี้ มีสัตว์ชนิดใดที่ท่านผ.อ. ชื่นชอบเป็นพิเศษหรือไม่ คุณณรงวิทย์ตอบพร้อมรอยยิ้มว่า ตนเลือกไม่ได้ เพราะต้องดูแลทุกตัวอย่างทั่วถึง ต้องรักทุกตัวให้เท่ากัน จะลำเอียงรักตัวใดตัวหนึ่งมากกว่าไม่ได้

นอกจากนี้ ท่านยังแอบทิ้งท้ายว่า ในช่วงวันที่ 4-10 ธันวาคม 2024 ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจะจัดกิจกรรม Fan Meeting เพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างๆกว่า 70 แบรนด์ได้เข้ามาเปิดพื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้ทำร่วมกับหมูเด้ง โดยคาดว่าจะเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวในเดือนธันวาคมได้จนแตะ 200,000 คน

เมื่อนักข่าว Posttoday สอบถามคุณเบนซ์ อรรถพล พี่เลี้ยงผู้ดูแลหมูเด้งว่า เมื่อเกิดกระแสหมูเด้งฟีเวอร์ เด็กหลายคนเริ่มหันมาสนใจอาชีพ Zoo keeper มากขึ้น มีอะไรที่ควรทราบก่อนมาทำอาชีพนี้ไหม ด้านคุณเบนซ์เผยว่า อาชีพ Zoo keeper เป็นที่สนใจของน้องๆมาสักระยะแล้ว ก่อนเกิดกระแสหมูเด้งฟีเวอร์เสียอีก ซึ่งจำนวน Zoo keeper ในประเทศไทยยังมีจำนวนน้อยสอดคล้องกับสวนสัตว์ในประเทศไทยที่มีไม่มากนัก ซึ่งสำหรับน้องๆที่สนใจในอาชีพนี้ อาจต้องประเมินความเป็นไปได้ในอนาคตด้วยว่าสวนสัตว์แต่ละที่จะเปิดรับสมัครจำนวนมากน้อยเท่าใด 

ท้ายที่สุด คุณเบนซ์ได้ฝากถึงนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาเยี่ยมชมความน่ารักของหมูเด้งว่า สวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีสัตว์มากกว่า 200 ชนิด ถ้าแวะมาหาหมูเด้งแล้ว ก็อย่าลืมแวะไปชมความน่ารักของน้องๆตัวอื่นๆด้วย เพราะสัตว์แต่ละชนิดล้วนมีความน่ารักแตกต่างกันออกไป

ทั้งนี้ สำหรับสินค้าหมูเด้งภายใต้แคมเปญ TOPS x Moo Deng & Friends จะเปิดตัวใน 4 คอลเล็กชัน ได้แก่ เค้กดีไซน์พิเศษจาก The Baker,สินค้าน้ำมะพร้าวน้ำหอมจากแบรนด์ NC,เสื้อยืด I love Thailand คอลเล็กชัน “เจ้าหมูเด้ง”, กางเกงหมูเด้ง

โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสินค้าภายใต้แคมเปญดังกล่าว จะนำไปบริจาคให้แก่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้ชื่อ “หมูเด้ง ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแล​สวัสดิภาพเพื่อนสัตว์” 

นอกจากนี้ เมื่อซื้อสินค้าคอลเลคชันหมูเด้ง ภายใต้ แคมเปญ “TOPS x Moo Deng & Friends” ครบ 1,000 บาท ขึ้นไป ผู้ซื้อจะได้รับบัตรเข้าสวนสัตว์เปิดเขาเขียวฟรีอีกด้วย