เปิดกลลวงใหม่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ใช้ "E-wallet" ลวงแลกแต้ม ล้วงข้อมูล
ACSC เปิดกลลวงใหม่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ส่งSMS อ้าง ชื่อ PTT - Café Amazon ใช้ E-wallet ลวงแลกแต้ม หลอกล้วงข้อมูลส่วนบุคคล ขณะที่แก๊งอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ยังระบาดหนัก
ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) เผยสถิติรับแจ้งคดีหลอกลวงรอบสัปดาห์ (30 พ.ย. - 6 ธ.ค. 68) มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 411 ล้านบาท พบคนร้ายปรับกลยุทธ์เน้น "ปริมาณมากกว่ามูลค่า" และเริ่มใช้ระบบจ่ายเงินแบบ E-wallet อ้างใช้แต้มแลกของรางวัลเพื่อหลอกเอาข้อมูลและเงินจากเหยื่อ
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ได้เปิดเผยสถิติและสถานการณ์อาชญากรรมทางออนไลน์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 30 พ.ย. - 6 ธ.ค. 68)
โดยพบว่ามีคดีที่รับแจ้งผ่านทาง Thaipoliceonline
- จำนวน 7,353 เคส
- มูลค่าความเสียหายรวม 411,285,507 บาท (เฉลี่ย 58.75 ล้านบาทต่อวัน)
แม้ว่าจำนวนคดีจะเพิ่มขึ้น 827 เคส จากสัปดาห์ก่อนหน้า (23 - 29 พ.ย. 68) แต่กลับพบว่ามูลค่าความเสียหายลดลงกว่า 16 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า ยุทธวิธีของคนร้ายเปลี่ยนไปเน้น "ปริมาณมากกว่ามูลค่า" โดยมีช่องทาง FACEBOOK เป็นแพลตฟอร์มที่มีการแจ้งความสูงสุดถึง 3,274 ครั้ง แต่ช่องทางอื่น ๆ กลับมีมูลค่าความเสียหายสูงสุด บ่งชี้ถึงการกระจายความเสี่ยงของมิจฉาชีพ
สถิติคดีแยกตามปริมาณและความเสียหาย
เชิงปริมาณ (จำนวนคดีสูงสุด)
- หลอกซื้อขายสินค้าออนไลน์ (61.8%) : เป็นภัยใกล้ตัวที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการจับจ่ายช่วงต้นเดือนและโปรโมชั่นส่งท้ายปี
- หลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัล
- หลอกให้โอนหารายได้พิเศษ
เชิงมูลค่าความเสียหายสูงสุด
- คดีหลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัล
- หลอกลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ : ยังคงใช้ "ข้ออ้างผลตอบแทนสูง" ได้ผล
- หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษ (มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย)
รูปแบบกลโกงใหม่ : E-wallet และ การปรับตัวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากการกวาดล้างศูนย์สแกมในพื้นที่ Shwe Kokko และ KK Park ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายบัญชีม้าข้ามแดนจำนวนมาก ขบวนการจึงมีการปรับยุทธวิธีเพื่อหนีการตรวจจับ โดยหันไปใช้ บัญชีสัญชาติเพื่อนบ้าน (ลาว กัมพูชา มาเลเซีย) แทนบัญชีไทย และเริ่มใช้ E-wallet ในการหลอกลวงมากขึ้น
แผนประทุษกรรมที่พบในรอบสัปดาห์ ได้แก่:
- หลอกลวงผ่าน E-wallet : ส่ง SMS ปลอมอ้างชื่อ PTT หรือ Café Amazon หลอกว่าคะแนนสะสมใกล้หมดอายุ หรือแลกของรางวัล เพื่อหลอกเอาข้อมูลหรือให้โอนเงิน
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ : มุ่งเป้าผู้สูงอายุ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ หรือเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้า ก่อนหลอกให้แอดไลน์ปลอม และติดตั้งแอปฯ ดูดเงินหรือสแกนใบหน้า
- หลอกขายสินค้าผ่าน Social Media ยอดฮิต : บัตรคอนเสิร์ต, โทรศัพท์มือถือมือสอง (หลุดจำนำ), สินค้าเกษตร, สัตว์เลี้ยง
- หลอกทำงานพิเศษ/ลงทุน : ชวนทำงานง่ายๆ (กดรับออเดอร์, กดไลก์) สร้างความเชื่อใจด้วยการจ่ายเงินน้อยๆ ในช่วงแรก ก่อนดึงเข้า Line OpenChat เพื่อหลอกลงทุนในยอดเงินที่สูงขึ้นและเชิดเงินหนี
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ACSC ยังสามารถช่วยเหลือเหยื่อและระงับการโอนเงินก่อนถึงบัญชีมิจฉาชีพได้ทันท่วงทีรวม 23 ราย คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 4,362,200 บาท
ดน้นย้ำให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงและแพลตฟอร์มที่คนร้ายใช้ และระมัดระวังการหลอกลวงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการหลอกให้ติดตั้งแอปฯ แปลกปลอม และการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ขอให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ ท่านสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com หรือโทรศัพท์ปรึกษาสายด่วน 1441


