“นฤมล” ลงพื้นที่นราธิวาส หนุน Learn to Earn สร้างรายได้ระหว่างเรียน
“นฤมล” ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มอบทุนการศึกษาเยาวชนชายแดนใต้ หนุนการศึกษา “Learn to Earn” สร้างรายได้ระหว่างเรียน
KEY
POINTS
- ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมการจัดการศึกษาและรับฟังปัญหาจากบุคลากรในพื้นที่
- สนับสนุนโครงการ “Learn to Earn” ที่มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนสามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียน เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและคุณภาพชีวิต
- มอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานทักษะอาชีพของนักเรียน
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนหน่วยงานทางการศึกษา รวมกว่า 600 คน ณ ห้องประชุมจำลอง ศรีเลขา โรงเรียนนราธิวาส
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการได้เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 11 ทุน พร้อมกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาโดยตรง เพื่อให้การบริหารจัดการด้านการศึกษาตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง
ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาแบบพหุวัฒนธรรม และส่งเสริมการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะโครงการ “Learn to Earn” ที่มุ่งให้ผู้เรียนสามารถสร้างรายได้ระหว่างศึกษา ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาทักษะอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนในพื้นที่
นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยกระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างผลักดันการจัดตั้ง “สหกรณ์กลางรวมหนี้ครู” เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยและสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้แก่ครูทั่วประเทศ รวมถึงการปรับปรุงระบบย้ายครู (TRS) ให้มีความโปร่งใสและสอดคล้องกับสภาพการปฏิบัติงานจริงมากยิ่งขึ้น
ภายหลังพิธีมอบทุน ศ.ดร.นฤมล ได้เยี่ยมชมนิทรรศการและผลงานนักเรียนในพื้นที่ อาทิ การทอผ้า การสานเสื่อกระจูด และโครงการทักษะอาชีพด้านธุรกิจอาหารและเกษตร รวมถึงนวัตกรรมหลักสูตรอัตลักษณ์ท้องถิ่นของสถานศึกษาในจังหวัดนราธิวาส พร้อมชื่นชมว่าการจัดการศึกษาของพื้นที่สามารถตอบโจทย์บริบทท้องถิ่นและแนวทางการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างเหมาะสม.


