รำลึกพระเมตตา ณ "ภูพิงคราชนิเวศน์" ทิพย์วิมานแห่งการทรงงาน
คนภูพิงค์น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพันปีหลวง ที่ทรงใช้พระตำหนักแห่งนี้เป็นฐานที่ประทับแรม ทรงงานเยี่ยมเยียนราษฎรภาคเหนือ และส่งเสริมงานศิลปาชีพจนประชาชน
รำลึกพระเมตตา...ในทิพย์วิมานแห่งดอยบวกห้า ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ณ ดินแดนที่เสมือนทิพย์วิมานในเทพนิยาย และสวรรค์บนพื้นพิภพยามเช้าในฤดูหนาว กลุ่มสายหมอกจะลอยพาดผ่านยอดดอยพระตำหนักที่นี้ คือ “พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์” จังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวง ร.9) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2504 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงานและเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ รวมทั้งยังใช้รับรองพระราชอาคันตุกะในวโรกาสต่าง ๆ
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,373.197 เมตร การที่ทรงเลือกสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และภูมิประเทศที่สวยงาม อีกทั้งยังดำรงรักษาจารีตขนบธรรมเนียมประเพณีดีงามไว้
รอยรักรอยอาลัยจากหัวใจคนภูพิงค์
เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณใกล้เคียงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอาลัยต่อพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นั้นยังคงอบอวล
เจ้าของร้านของที่ระลึกภูพิงฯ เปิดภาพสะสม รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
บริเวณร้านขายผ้าและของที่ระลึกใกล้พระตำหนักฯ เจ้าของร้านได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เก็บสะสมไว้มานานหลายสิบปีออกมาให้ผู้สื่อข่าวชมด้วยความซาบซึ้งใจ เจ้าของร้านได้กล่าวด้วยความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์ทรงมีพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะต่อผู้ด้อยโอกาสและชาวเขาในพื้นที่ภาคเหนือ
พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรและงานศิลปาชีพ
พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงและความอยู่ดีกินดีให้กับราษฎรชาวเหนืออย่างใหญ่หลวง พระองค์ทรงส่งเสริมงานศิลปาชีพ และช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชนจนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
การเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทรงงานของทั้งสองพระองค์ ในการเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรในภาคเหนือในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ นั้น พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ได้เคยจัดแสดงฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ซึ่งตัดเย็บจากผ้าลูกไม้ และผ้าไหมมัดหมี่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ โดยฉลองพระองค์ดังกล่าวออกแบบโดยคุณเรณู โอสถานุเคราะห์ แสดงให้เห็นถึงการทรงงานควบคู่ไปกับการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย
นอกจากนี้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ยังเป็นแหล่งรวมของพันธุ์กุหลาบมากกว่า 263 พันธุ์ ซึ่งรวมถึงพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งนำออกเผยแพร่ ตลอดจนพันธุ์กุหลาบพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แบ่งเป็น 5 ประเภท
สถาปัตยกรรมและรายละเอียดของพระตำหนัก
“พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์” มีลักษณะสถาปัตยกรรมโดดเด่นแบบไทยประยุกต์ สร้างขึ้นในลักษณะแผนผังแบบเรือนไทยภาคกลาง ที่เรียกว่าเรือนหมู่ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย ภายในประกอบด้วยท้องพระโรง, ห้องเสวย, ห้องบรรทม, ห้องสรง และห้องรับรองสำหรับพระราชอาคันตุกะ นอกจากนี้ยังมีเฉลียงใหญ่และพลับพลาหอนก เป็นที่ประทับทอดพระเนตรทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่ ชั้นบนเป็นที่ประทับ ส่วนชั้นล่างเป็นที่อยู่ของมหาดเล็กและคุณข้าหลวง
พระตำหนักแห่งนี้ออกแบบแปลนโดย “หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร” สถาปนิกพิเศษ กรมศิลปากร และการออกแบบตกแต่งภายในทั้งในส่วนที่ประทับและส่วนรับรองพระราชอาคันตุกะนั้นดำเนินการโดย “หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี”
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ครอบคลุมเนื้อที่โดยรอบ 400 ไร่ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม 200 ไร่ โดยพระตำหนักแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเชียงใหม่เท่านั้น
แต่ยังเป็นสถานที่ที่พวกเราคนไทยจะได้มีโอกาสเข้าชมที่ประทับทรงงานเพื่อประชาชนของในหลวง รัชกาลที่ 9 พร้อมศึกษาประวัติศาสตร์การเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับพระราชอาคันตุกะทั่วโลก โดยพระราชอาคันตุกะครั้งแรกที่มาประทับที่นี่คือ สมเด็จพระเจ้าเฟรดเดริคที่ 9 และสมเด็จพระราชินีอินกริด แห่งเดนมาร์ก เมื่อเดือนมกราคม 2505
การเดินทางมาเยือนพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จึงมิใช่แค่การชื่นชมความงามของธรรมชาติและดอกไม้เมืองหนาวที่บานสะพรั่ง แต่เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของสองพระองค์ที่ทรงงานเพื่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด
ภาพ ธิติ วรรณมณฑา Nation Photo


