“ลดธงครึ่งเสา” สัญลักษณ์แห่งความอาลัยและเกียรติยศของแผ่นดิน
รายงานพิเศษ: ธรรมเนียม “ลดธงครึ่งเสา” ในสยาม สัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยอันเป็นเกียรติยศของแผ่นดิน
รัฐบาลได้ประกาศให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถานเอกอัครราชทูตไทยทั่วโลก ลดธงครึ่งเสาเพื่อถวายความอาลัยและแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความรักและความผูกพันของปวงชนชาวไทย
จุดเริ่มต้นของธรรมเนียมในสยาม
ธรรมเนียม “ลดธงครึ่งเสา” เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อบุคคลสำคัญ เริ่มต้นในสยามตั้งแต่รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้ง สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี (ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์) สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2404 เหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นครั้งแรกที่สยามรับอิทธิพลธรรมเนียมตะวันตกในการไว้อาลัย ด้วยบรรดากงสุลต่างประเทศ เรือกำปั่นในแม่น้ำเจ้าพระยา และชาวต่างชาติ ต่างพร้อมใจกันลดธงลงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน เพื่อแสดงความเคารพ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึง พระยาศรีพิพัฒน์ หัวหน้าคณะทูตสยามที่ฝรั่งเศส ระบุว่า แม้ต่างชาติจะมองว่าเป็นเพียง “เจ้าเล็กเจ้าน้อย” แต่บรรดากงสุลและพาณิชต่างประเทศกลับให้ความเคารพโดยพร้อมเพรียง พร้อมไขว้เชือกแดงที่เสาธง เพื่อแสดงความเศร้าโศก และทรงมีพระบรมราชโองการให้ผู้แทนสยามประพฤติเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นเกียรติยศแก่พระบรมราชินี
พระราชหัตถเลขาฉบับนี้ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นว่า สยามในยุคนั้นเริ่มรับรู้และเข้าใจถึงธรรมเนียมการลดธงครึ่งเสาในฐานะ “สัญลักษณ์สากลแห่งการไว้อาลัย” และเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ล่วงลับในระดับนานาชาติ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่ราชสำนักไทยยึดถือสืบต่อมา
ธงครึ่งเสาในยุคปัจจุบัน
จากธรรมเนียมสู่ระเบียบราชการ
ในปัจจุบัน การลดธงครึ่งเสาในประเทศไทยเป็นไปตามคำสั่งของ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะพิจารณาตามฐานันดรศักดิ์และความสำคัญของผู้วายชนม์ หากเป็นบุคคลระดับสูงหรือบุคคลสำคัญของชาติ เช่น พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้นำประเทศ หรือบุคคลที่มีคุณูปการต่อแผ่นดิน จะมีประกาศอย่างเป็นทางการกำหนดระยะเวลาการไว้ทุกข์และลดธง เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และสถานเอกอัครราชทูตไทยทั่วโลก ปฏิบัติพร้อมกันโดยเป็นเอกภาพ
นอกจากนั้น ยังมีข้อกำหนดทางพิธีการ เช่น การลดธงลงครึ่งเสาให้เชือกที่ปลายล่างของธงอยู่กึ่งกลางของเสา เพื่อให้สื่อถึง “การเว้นพื้นที่ไว้ให้ความโศกเศร้า” และถือเป็นการให้เกียรติแก่ผู้จากไปตามขนบธรรมเนียมที่สืบต่อกันมา
ธงครึ่งเสาแห่งความอาลัยและความภักดี
ธรรมเนียม “ลดธงครึ่งเสา” ไม่ได้เป็นเพียงพิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์ของรัฐ แต่คือการแสดงออกถึง ความจงรักภักดีและความอาลัยจากหัวใจของประชาชนทั้งชาติ โดยเฉพาะในวาระการถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้ทรงเป็นแม่แห่งชาติ ผู้ทรงพระกรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม และทรงสถิตอยู่ในดวงใจของคนไทยตราบนิรันดร์
“การลดธงครึ่งเสา” จึงมิใช่เพียงการลดธงลงกึ่งเสา หากแต่คือการยกหัวใจของคนไทยขึ้นสูงสุดแห่งความจงรักและอาลัย.


