วันนอร์ ถึงเจนีวา เตรียมชงไทยนำเสนอข้อมติแก้ปัญหาสแกมเมอร์
ประธานวันนอร์นำทีมไทยแลนด์ถึงเจนีวา เตรียมเข้าร่วมประชุม IPU ครั้งที่ 151 ชูประเด็นเร่งด่วน “จัดการสแกมเมอร์ทั่วโลก” หวังผลักดันเป็นวาระฉุกเฉินระดับนานาชาติ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เดินทางถึงกรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2568 (เวลาท้องถิ่น) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union : IPU) ครั้งที่ 151 ระหว่างวันที่ 19–23 ตุลาคมนี้
โดยมีนางอุศณา พีรานนท์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ให้การต้อนรับอย่างเป็นทางการ ก่อนที่ประธานวันนอร์จะเข้าหารืออย่างไม่เป็นทางการทันที เพื่อสรุปความพร้อมด้านเนื้อหาและถ้อยแถลงที่จะใช้ในการประชุมใหญ่ของรัฐสภาไทย
หัวข้อหลักของการประชุม IPU ครั้งนี้ คือ “มนุษยธรรมท่ามกลางโลกในภาวะวิกฤต” ซึ่งผู้แทนรัฐสภาไทยจะย้ำจุดยืนของประเทศไทยในการให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชน การลดการเหยียดเชื้อชาติและเพศ ตลอดจนการคุ้มครองประชาชนในพื้นที่ความขัดแย้ง โดยตั้งเป้าให้การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสร้างความร่วมมือระดับโลกด้านมนุษยธรรมอย่างเป็นรูปธรรม
ไทยเสนอ “วาระฉุกเฉิน” ผลักดันข้อมติร่วมจัดการปัญหาสแกมเมอร์ทั่วโลก
หนึ่งในภารกิจสำคัญของคณะรัฐสภาไทย คือการผลักดัน “ระเบียบวาระฉุกเฉิน” (Emergency Item) เพื่อให้ที่ประชุม IPU พิจารณารับรองข้อมติว่าด้วย “การจัดการปัญหาสแกมเมอร์และการหลอกลวงออนไลน์” ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในทุกภูมิภาคของโลก
การเสนอวาระฉุกเฉินในแต่ละปีจะได้รับการบรรจุเพียงหนึ่งหัวข้อเท่านั้น และต้องผ่านการรับรองด้วยเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกอย่างน้อยสองในสาม โดยปีนี้คาดว่าจะมีข้อเสนอจากหลายประเทศ เช่น ประเด็นปาเลสไตน์ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และวิกฤตในเวเนซุเอลา ซึ่งล้วนเป็นคู่แข่งสำคัญของร่างข้อมติจากประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม คณะผู้แทนไทยมั่นใจว่าร่างข้อมติเรื่อง “สแกมเมอร์” จะได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนมาก เนื่องจากเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กลายเป็นแหล่งศูนย์กลางของอาชญากรรมไซเบอร์ในปัจจุบัน
รายงานระบุว่าคณะรัฐสภาไทยได้ส่งหนังสือขอการสนับสนุนถึงประเทศสมาชิกทั้ง 6 กลุ่มภูมิภาคของ IPU แล้ว พร้อมระบุเหตุผลและแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน ขณะเดียวกัน นางอุศณา พีรานนท์ ได้ช่วยประสานกับมิตรประเทศที่ให้ความสำคัญต่อปัญหานี้ เช่น สหภาพยุโรป (EU), สหราชอาณาจักร, เกาหลีใต้ และจีน ซึ่งต่างได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมออนไลน์เช่นกัน
ในขั้นต้นประเทศเหล่านี้ตอบรับในทิศทางที่ดี เนื่องจากร่างข้อมติของไทยมีความเป็นกลาง ครอบคลุม และสอดคล้องกับสถานการณ์จริงของโลกในปัจจุบัน จึงคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนในระดับสูงจากชาติสมาชิกจำนวนมากในที่ประชุมใหญ่ครั้งนี้


