กรมขนส่งฯ แจงยังไม่ขึ้นค่าแท็กซี่ ศึกษาใช้มิเตอร์ดิจิทัล
กรมการขนส่งทางบกยืนยัน ยังไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ ชี้แนวคิด Digital Taximeter เป็นเพียงการศึกษา เพื่อนำเทคโนโลยีช่วยคิดค่าโดยสารให้เป็นธรรมในอนาคต
กรมการขนส่งทางบกยืนยันยังไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ในขณะนี้ พร้อมชี้แจงว่าแนวคิดที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เป็นเพียงการศึกษาแนวทางนำเทคโนโลยี Digital Taximeter และระบบ GPS มาช่วยคำนวณอัตราค่าโดยสาร เพื่อสร้างความเป็นธรรมทั้งต่อผู้โดยสารและผู้ขับแท็กซี่ในอนาคต
นาย สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวไม่ใช่การปรับขึ้นราคา แต่เป็นการเปลี่ยนจาก “มาตรมิเตอร์แบบกลไก” ที่ใช้อยู่เดิม มาใช้ระบบดิจิทัลในการคิดค่าโดยสาร โดยยังคงใช้ สูตรราคาเดิมทุกประการ เพียงแต่ระบบใหม่จะสามารถคำนวณค่ารถติดหรือช่วงเวลาจราจรหนาแน่นได้แม่นยำกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการโกงมิเตอร์และการปฏิเสธผู้โดยสารได้ในระยะยาว
ขณะเดียวกัน นางสาว มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังมอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบกว่า หนึ่งในแนวทางที่อยู่ระหว่างการศึกษา คือการเก็บ ค่าบริการเพิ่มเติม (Surcharge) ในชั่วโมงเร่งด่วนหรือหลังเวลา 21.00 น. เพื่อจูงใจให้แท็กซี่รับผู้โดยสารในช่วงที่มักถูกปฏิเสธมากที่สุด โดยย้ำว่ามาตรการดังกล่าว ยังไม่ใช่การปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่เป็นแนวคิดเพื่อให้โครงสร้างค่าบริการมีความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่ายมากขึ้น
ที่ผ่านมา กว่า 20 ปี แท็กซี่ยังไม่เคยมีการปรับค่าโดยสาร การพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในช่วงเวลาพิเศษ จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ขับแท็กซี่ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น แต่ยังไม่เริ่มใช้จริงในช่วงนี้
กรมการขนส่งฯ ระบุว่า ระบบ Digital Taximeter จะเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับแท็กซี่จดทะเบียนในอนาคต โดยเฉพาะรถใหม่หรือผู้ประกอบการที่สมัครใจเข้าร่วม ซึ่งอาจเริ่มเห็นความชัดเจนของแนวทางได้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ ทั้งนี้ แท็กซี่ที่เข้าร่วมจะต้องรักษามาตรฐานความสะอาด ความพร้อมของรถ และติดตั้งอุปกรณ์ตามที่กำหนด
ข้อมูลจากกรมฯ ระบุว่า ปัจจุบันมีแท็กซี่มิเตอร์ให้บริการเฉลี่ยวันละ 65,000 คัน จากเดิมกว่า 100,000 คันก่อนช่วงโควิด-19 ขณะที่ในช่วงปี 2568–2569 จะมีแท็กซี่หมดอายุการใช้งานและออกจากระบบราว 15,000 คัน ซึ่งแท็กซี่ใหม่ที่จะเข้ามาแทนจะต้องติดตั้งระบบ Digital Taximeter ตามมาตรฐานใหม่ทั้งหมด
นายสรพงศ์ย้ำปิดท้ายว่า แนวคิดนี้ไม่ใช่การขึ้นราคา แต่เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับคุณภาพบริการให้โปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น ทั้งต่อผู้โดยสารและผู้ขับแท็กซี่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ระบบแท็กซี่ไทยก้าวทันสากล


