รัฐสภาไทยร่วมประชุม IPU เตรียมเสนอปัญหาสแกมเมอร์วาระฉุกเฉิน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นำคณะรัฐสภาไทยร่วมประชุม IPU ที่เจนีวา เตรียมเสนอร่างข้อมติปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระฉุกเฉิน หวังสร้างความร่วมมือทั่วโลกจัดการภัยไซเบอร์
คณะผู้แทนรัฐสภาไทยนำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ได้ออกเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union – IPU) ครั้งที่ 151 ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อค่ำวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา
การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18–25 ตุลาคม โดยมีหัวข้อหลักคือ “ยืนหยัดมาตรฐานด้านมนุษยธรรมและสนับสนุนการดำเนินการเพื่อมนุษยธรรมในยามวิกฤติ” ซึ่งสมาชิกจาก 181 ประเทศจะร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางรับมือวิกฤตระดับโลกในหลากหลายมิติ
หนึ่งในกระบวนการสำคัญของเวที IPU คือการพิจารณา “ระเบียบวาระฉุกเฉิน” (Emergency Item) ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนระดับนานาชาติที่เพิ่งเกิดขึ้น และต้องการการตอบสนองทันทีจากรัฐสภาทั่วโลก การจะบรรจุวาระดังกล่าวได้ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของชาติสมาชิก
สำหรับการประชุมปีนี้ คณะผู้แทนไทยได้เตรียมเสนอ “ร่างข้อมติว่าด้วยการจัดการปัญหาสแกมเมอร์” เพื่อผลักดันให้เป็นวาระฉุกเฉินของที่ประชุม เนื่องจากปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงในเกือบทุกภูมิภาคของโลก และกลายเป็นภัยข้ามพรมแดนที่ต้องการความร่วมมือระดับนานาชาติ
ก่อนออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายวันมูหะมัดนอร์ให้สัมภาษณ์กับ เนชั่นทีวี ว่า ปัญหาสแกมเมอร์เป็นเรื่องเรื้อรังที่ขยายตัวรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่สูญเงินออมก้อนสุดท้ายในชีวิตให้กับขบวนการหลอกลวงเหล่านี้
“ที่ผ่านมา มีเอกอัครราชทูตและผู้แทนรัฐสภาหลายประเทศ เช่น ศรีลังกา และบางประเทศในแอฟริกา เดินทางมาพบผมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแสดงความห่วงใย เพราะขบวนการสแกมเมอร์บางส่วนใช้ไทยเป็นทางผ่าน เพื่อส่งเหยื่อไปยังฐานปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่มีเที่ยวบินตรง การกระทำนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของไทยโดยตรง” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว
เขาระบุว่า แม้รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการเข้มงวดจนจำนวนการใช้ไทยเป็นจุดผ่านลดลง โดยเฉพาะบริเวณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แต่ขบวนการดังกล่าวยังคงย้ายฐานไปประเทศรอบข้าง ทำให้ปัญหายังไม่สิ้นสุด
ประธานรัฐสภาไทยยังชี้ว่า ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ถือเป็นการ “ทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง” หลายคนต้องสูญเสียทรัพย์สินจนหมดตัว และมีผลต่อสังคมในวงกว้าง “ในทางศาสนาอิสลาม คนที่ประกอบอาชีพเช่นนี้ถือว่ามีใจอำมหิต พระเจ้าไม่เข้าข้าง และสุดท้ายย่อมถูกกฎหมายลงโทษ เพราะไม่มีประเทศใดยอมรับได้”
ปัจจุบัน ศูนย์กลางของขบวนการสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังถูกจับตาและกดดันจากหลายชาติมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ ทำให้ปัญหานี้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในระดับโลก
นายวันมูหะมัดนอร์ย้ำว่า การเสนอร่างข้อมติเรื่อง “การจัดการปัญหาสแกมเมอร์” ต่อที่ประชุม IPU เป็นการผลักดันให้สมัชชารัฐสภาโลกได้ร่วมกันหาทางออกภายใต้กรอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเขาเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากชาติสมาชิกจำนวนมาก และเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการภัยไซเบอร์ร่วมกัน


