



คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ ลงพื้นที่ ช่องสายตะกู
กองทัพไทย และกองทัพภาคที่ 2 นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT 3 ประเทศ บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ ลง พื้นที่ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บริเวณรั้วชายแดน ใกล้แนวเส้นปฏิบัติการ
กองทัพไทย และกองทัพภาคที่ 2 นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT 3 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน / มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวม 4 นาย นำโดยพลจัตวาซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Pol. Col. Samsul Rizal Bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT ลง พื้นที่ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ในบริเวณรั้วชายแดน ใกล้แนวเส้นปฏิบัติการ
ทหารในพื้นที่ ได้สื่อสารและอธิบายแผนที่ให้คณะ IOT รับทราบถึงที่ตั้งและสถานการณ์ในพื้นที่เป็นภาษาอังกฤษ ทั้งรายละเอียดของหลักหมุดเขตแดนที่ 24 (ช่องจันทร์แดง) , 25 (ช่องสายตะกู) , 26 (ช่องจันทบเพชร) และพบการก่อสร้างตึก “บ่อนกาสิโน” ขนาดใหญ่ 1 แห่ง ด้านซ้ายหากมองจากฝั่งไทย ชื่อ “สายตะกูรีสอร์ท” ขณะที่ด้านขวาเมื่อมองจากฝั่งไทย ยังพบตึกแสกมเมอร์-คอลเซนเตอร์อีกหนึ่งแห่ง เปิดเป็นที่พักของพนักงาน มีเสาสัญญาณพร้อม และถัดไปอีก จะถึงตลาดกัมพูชา ตั้งอยู่ห่างจากแนวรั้ว 600 เมตร
รวมถึงตั้งแต่กองทัพภาคที่ 2 สั่งปิดด่านตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดการปะทะในช่วงวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่วันนี้ยังมีร่องรอยความเสียจากการยิง และระเบิดของกัมพูชา BM21 ที่ยิงพุ่งเป้าเข้าชุมชน เกิดร่องรอยความเสียหาย อย่างสภาพตู้คอนเทนเนอร์ในฝั่งไทย ซึ่งเป็นตู้จุดสำหรับขออนุญาติผ่านแดน เป็นรูจำนวนมาก และยังมีร่องรอยของกระจกที่แตกกระจายจากการยิงของกัมพูชา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านและคนของทั้ง 2 ประเทศ อยู่กันแบบครอบครัวมาก่อน
คณะ IOT ได้รับฟังและเดินสำรวจพื้นที่ สังเกตดูบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง ก่อนถามถึงความเป็นมา ทราบข้อมูลว่า “บ่อนแห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2554 มีความสูง 7 ชั้น สร้างภายใต้ชื่อ สายตะกูรีสอร์ท เปิดทั้งโรงแรม บ่อนกาสิโน และคอลเซนเตอร์ พุ่งเป้าหลอกคนทางออนไลน์ สร้างรายได้มหาศาล“ ซึ่งการก่อสร้างตึกแห่งนี้ ห่างจากแนวหลักหมุดเขตเพียง 125 เมตร นั่นแสดงให้เห็นอีกว่ากัมพูชา กำลังละเมิด MOU43 คือ ก่อสร้างตึกใกล้หลักหมุดเขตแดน ทั้งๆ ที่ความจริงตามหลัก คือ ห้ามปรับปรุงสภาพภูมิประเทศ ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม”
จากข้อมูลยังทราบชื่อเจ้าของตึก คือ “ออกญาลึม เฮง” นักธุรกิจใหญ่กัมพูชา เจ้าของบ่อนสายตะกู และเป็นระดับที่ปรึกษาของฮุนเซน
จากนั้นคณะ IOT ยังเดินไปดูร่องรอยความเสียหายของตู้คอนเตอร์ จุดสำหรับขออนุญาติผ่านแดน และจุดทางเข่าไปยังไปตลาดฝั่งไทย ที่ตั้งห่างออกไปกว่า 200 เมตร ก่อนทางคณะฯ จะขอเข้าไปพูดคุยข้อมูลกับทางกองทัพภาคที่ 2 เป็นการส่วนตัวภายในห้องรองรับ โดยตลอดการลงพื้นที่ของคณะฯ พบว่าทางฝั่งกัมพูชา มีคนขับรถมอเตอร์ไซต์ บีบแตรเสียงดังตลอดเวลา ลักษณะมาป่วน ก่อกวนในช่วงที่คณะฯ ลงพื้นที่ รวมถึงยังมีเด็กและทหารฝั่งตรงข้าม ถือโทรศัพท์ถ่ายรูปทีมสื่อมวลชนและคณะฯ ด้วย
สำหรับ “ช่องสายตะกู” เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดนช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี ชายแดนไทย-กัมพูชา เดิมทีเคยเป็นตลาดการค้าชุมชมของทั้ง 2 ประเทศ เปิดทุกวันเวลา 09.00-15.00 น. ปกติจะมีประชาชนไม่ต่ำกว่า 300 คนข้ามแดน แต่จะมีเงื่อนไขอนุญาติให้ชาวบ้านใน อ.บ้านกรวด ข้ามผ่านไปมา เพื่อจับจ่ายซื้อของแลกเปลี่ยนสินค้าชุมชนระหว่างประเทศเท่านั้น ห้ามคนนอกพื้นที่ ซึ่งตลาดชุมชนฝั่งไทยจะขายสินค้าจำพวกอุปโภคบริโภค / ส่วนฝั่งกัมพูชา จะขายพวกบุหรี่ เหล้า หรือสินค้าผิดกฎหมาย






