กองทัพส่งฮ.บุกป่า ช่วย 19 ทหารพราน ขาดการติดต่อหลังแกะรอย BM-21
เปิดนาทีชีวิต กองทัพส่งเฮลิคอปเตอร์ช่วย 19 ทหารพราน หลังหลงป่า-ขาดการติดต่อกว่า 3 วัน ขณะปฏิบัติภารกิจลับแกะรอยที่ตั้งจรวด BM-21 แนวชายแดนไทย-กัมพูชา
เปิดภารกิจค้นหาและช่วยเหลือ (SAR) สุดบีบหัวใจ หลัง 19 ทหารพรานชุดลาดตระเวน ขาดการติดต่อขณะปฏิบัติภารกิจลับแกะรอยที่ตั้ง BM-21 บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จ.อุบลราชธานี
ฝ่าพายุฝนและน้ำป่าไหลหลากนานกว่า 3 วัน ก่อนกองทัพบกส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยสำเร็จ พบกำลังพลในสภาพอิดโรยแต่ใจยังสู้
เพจเฟซบุ๊ก "กองพันบินที่ 3" ได้เผยแพร่เรื่องราวภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือ 19 ชีวิตของทหารพราน สังกัดหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 23 ซึ่งขาดการติดต่อไปนานกว่า 3 วัน ขณะปฏิบัติภารกิจสำคัญ โดยระบุข้อความว่า
"Search & Rescue (SAR) พี่น้องในแนวหน้า 19 ชีวิตที่อิดโรย 137 ชั่วโมงแห่งฝันร้ายกลับบ้านเรา ทุกคนรออยู่"
เปิดฉากภารกิจลาดตระเวน สู่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 68 หน่วยทหารพราน 2305 และกองร้อยหนุน รวม 19 นาย ได้รับมอบภารกิจสำคัญในการเจาะเส้นทางและลาดตระเวนพิสูจน์ทราบเป้าหมาย
เพื่อยืนยันที่ตั้งของ จรวด BM-21 ในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณฐานปฏิบัติการรวงผึ้ง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
ตามแผนการ ชุดลาดตระเวนได้เตรียมเสบียงอาหารสำหรับการปฏิบัติภารกิจ 3 วัน โดยใช้เส้นทางเดินเท้าเลียบลำธาร (ลำโดม)
แต่ระหว่างปฏิบัติภารกิจต้องเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย เกิดพายุฝนตกหนักต่อเนื่อง จนทำให้เกิดภาวะน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง ตัดขาดเส้นทางและทำให้กำลังพลทั้งหมดไม่สามารถออกจากป่าได้
จนขาดการติดต่อกับหน่วยเหนือไปตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. 68 เวลา 01.00 น.
ปฏิบัติการค้นหาท่ามกลางอุปสรรค
หลังขาดการติดต่อ ชุดปฏิบัติการบิน กองทัพบก กองกำลังสุรนารี (ชปบ.ทบ.กกล.สุรนารี) ได้รับภารกิจ ค้นหาและกู้ภัย (Search and Rescue) อย่างเร่งด่วน
โดยได้ส่งเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮท.212 (Bell 212) ขึ้นบินลาดตระเวนตามแนวลำโดม ซึ่งเป็นเส้นทางที่คาดว่าทหารพรานทั้ง 19 นายใช้สัญจร
อย่างไรก็ตาม การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศยังคงปิดและเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการบิน
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการบินค้นหาอย่างละเอียดท่ามกลางความหวังของทุกฝ่าย
นาทีแห่งความหวัง ช่วย 19 ชีวิตกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ในที่สุดความพยายามก็สำเร็จ สามารถค้นพบทหารพรานทั้ง 19 นาย ทีมกู้ภัยได้ใช้เฮลิคอปเตอร์อพยพกำลังพลทั้งหมดออกมาอย่างปลอดภัย โดยแบ่งการลำเลียงออกเป็น 3 เที่ยวบิน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ากำลังพลทุกนายอยู่ในสภาพอิดโรยและอ่อนเพลียอย่างหนัก บางนายมีบาดแผลและอาการขาแพลงจากการเดินทางในภูมิประเทศที่ยากลำบาก และทั้งหมดต้องอดอาหารต่อเนื่องนานถึง 3-4 วัน
เพจ "กองพันบินที่ 3" ระบุว่า หากไม่ได้รับการช่วยเหลือทางอากาศ กำลังพลอาจจะต้องเดินเท้าต่อไปอีก 3-4 วันในสภาพร่างกายที่แทบไม่เหลือเรี่ยวแรง
แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้และเกียรติยศของทหารพรานที่ไม่เคยทิ้งกันไว้กลางทาง ทำให้ภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าความกลัวตายนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจแห่งความกล้าหาญที่ควรค่าแก่การจดจำ


