เปิดประวัติ เฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก Bell212 ประจำการนาน5ทศวรรษ
เฮลิคอปเตอร์ Bell212 ของตำรวจตกที่ประจวบคีรีขันธ์ คร่าชีวิตนักบินและช่างอากาศยานรวม 3 นาย เผยประวัติประจำการยาวนานตั้งแต่ปี 2516
เกิดเหตุการณ์สุดเศร้าเมื่อเฮลิคอปเตอร์ Bell 212 สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 3 นาย ได้แก่ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (นักบิน), ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย (นักบิน) และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ช่างอากาศยาน) สร้างความเสียใจอย่างยิ่งต่อเพื่อนร่วมงานและครอบครัว
สำหรับเฮลิคอปเตอร์ Bell 212 ถือเป็นอากาศยานแบบที่ 22 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเริ่มเข้าประจำการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 มีจำนวนทั้งสิ้น 16 ลำ หมายเลขประจำเครื่องตั้งแต่ 2209 ถึง 2224 นับเป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นเก๋าที่อยู่คู่กองบินตำรวจมานานเกือบ 5 ทศวรรษ
เปิดสเปค "เบลล์ 212" เฮลิคอปเตอร์คู่ภารกิจตำรวจไทย
Bell 212 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Pratt & Whitney PT6T-3B จำนวน 2 เครื่องยนต์ ให้กำลังรวมถึง 1,800 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 130 น็อต (ประมาณ 240 กม./ชม.) และความเร็วเดินทาง 100 น็อต (ประมาณ 185 กม./ชม.) มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 11,200 ปอนด์ (ประมาณ 5,080 กก.) สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 13 คน (รวมลูกเรือ) และมีระยะเวลาการบินต่อเนื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที โดยมีเพดานบินสูงสุดราว 6,100 เมตร
ภารกิจหลากหลาย "เบลล์ 212" ทำงานเพื่อประชาชน
ตลอดระยะเวลาการประจำการ เฮลิคอปเตอร์ Bell 212 ของกองบินตำรวจได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญมากมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนงานด้านความมั่นคง อาทิ การลำเลียงและค้นหาช่วยชีวิตผู้ประสบภัยพิบัติ เช่น เหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 และอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554
นอกจากนี้ ยังมีบทบาทในการสนับสนุนการฝึกอบรมและลำเลียงยุทธปัจจัย การลาดตระเวนตรวจการณ์ทางอากาศเพื่อเฝ้าระวังพื้นที่ต่างๆ รวมถึงภารกิจส่งกลับสายการแพทย์เพื่อลำเลียงผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน
ปัจจุบัน เฮลิคอปเตอร์ Bell 212 ยังคงประจำการอยู่ตามหน่วยบินตำรวจในต่างจังหวัด โดยมีบทบาทหลักในการสนับสนุนภารกิจของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ในการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นการสูญเสียอากาศยานสำคัญที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาอย่างยาวนาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป


