ส่องเส้นทาง "อิทธิพร แก้วทิพย์" มือฉมังคดีอาญา ว่าที่อสส. คนที่ 20

จับตา "อิทธิพร แก้วทิพย์" ว่าที่อัยการสูงสุด (อสส.) คนที่ 20 ของประเทศไทย 

 

ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านคดีอาญา และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงานกำหนดแนวทางการบังคับใช้กฎหมายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

 

ซึ่งล่าสุดมีบทบาทสำคัญในการพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ดร.พอล แชมเบอร์ส ในคดีหมิ่นเบื้องสูงฯ อันเป็นที่จับตามอง

 

 

เส้นทางนักกฎหมายและประสบการณ์โชกโชน

 

นายอิทธิพร แก้วทิพย์ จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 35 และนิติศาสตรมหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

เริ่มต้นเส้นทางราชการในตำแหน่งอัยการผู้ช่วยเมื่อปี พ.ศ. 2530 ก่อนจะสั่งสมประสบการณ์และดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย อาทิ:

 

• พ.ศ. 2543: อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี

 

• พ.ศ. 2547: อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดนครนายก

 

• พ.ศ. 2558: อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 สำนักงานคดีอาญา

 

• พ.ศ. 2562: รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา

 

• พ.ศ. 2563: อธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ

 

• พ.ศ. 2564: อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา

 

• พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน: รองอัยการสูงสุด

 

นอกจากนี้ นายอิทธิพรยังเคยทำหน้าที่เป็น โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2565 แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจและความสามารถในการสื่อสารองค์กร

 

 

ความเชี่ยวชาญด้านคดีอาญา และบทบาทในคดี ม.112

 

ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในสายงานคดีอาญา ทำให้นายอิทธิพรได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญอย่างสูง

 

บทบาทสำคัญในปัจจุบันคือการเป็น ประธานคณะทำงานกำหนดแนวทางการบังคับใช้กฎหมายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

 

ล่าสุด คณะทำงานชุดดังกล่าวได้มีมติและความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ดร.พอล แชมเบอร์ส ผู้ต้องหาในข้อหาคดีหมิ่นเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ

 

การตัดสินใจครั้งนี้ถูกมองจากหลายฝ่ายว่าเป็นการดำเนินการตามข้อกฎหมายที่อาจส่งผลดีต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา และช่วยป้องกันการนำประเด็นดังกล่าวไปขยายผลจนอาจกระทบต่อสถาบันฯ

 

 

ภารกิจพิเศษและบทบาทในองค์กรต่างๆ

 

นอกเหนือจากงานในหน้าที่พนักงานอัยการ นายอิทธิพรยังได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติภารกิจพิเศษและเป็นกรรมการในองค์กรสำคัญหลายแห่ง สะท้อนถึงความรู้ความสามารถที่หลากหลาย เช่น:

 

• คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)

 

• ประธานอนุกรรมการ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ กระทรวงศึกษาธิการ

 

• กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

 

• อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสทช.)

 

• กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายในหลายคณะกรรมการ อาทิ คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน และคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)

 

การผ่านหลักสูตรอบรมสำคัญๆ มากมาย เช่น หลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง, หลักสูตรการบริหารตำรวจชั้นสูง, หลักสูตรนักบริหารกระบวนการยุติธรรมชั้นสูง (บยส.) และหลักสูตร "หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย" (นธป.) ยิ่งเสริมสร้างวิสัยทัศน์และศักยภาพในการบริหารงานยุติธรรมของนายอิทธิพร แก้วทิพย์ ให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

 

เส้นทางของ "นายอิทธิพร แก้วทิพย์" สู่ตำแหน่งว่าที่อัยการสูงสุดคนที่ 20 จึงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ที่โชกโชน

 

โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญในคดีอาญา และบทบาทสำคัญในการพิจารณาคดีที่ละเอียดอ่อน ย่อมส่งผลต่อทิศทางขององค์กรอัยการและกระบวนการยุติธรรมของประเทศในอนาคต