posttoday

หลักฐานอ่อน ยกฟ้อง “ตู้ห่าว” คดีอาชญากรข้ามชาติ ฟอกเงินและยาเสพติด

11 กุมภาพันธ์ 2568

ศาลพิพากษา ยกฟ้อง“ตู้ห่าว-ภรรยา” และพวกรวม 19 คน คดีอาชญากรข้ามชาติ ฟอกเงินและยาเสพติด ศาลชี้พยานหลักฐาน ไม่เพียงพอ ส่วนอีก 6 คนมีความผิด ฐานยาเสพติด อาวุธปืน ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ สั่งจำคุกและปรับหลายกระทง

ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายฮวง ไฮ่ เท่า จำเลยที่ 1 นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว เป็นจำเลยที่ 2 พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์" ตำแหน่ง ผกก.ฝ่ายความร่วมมือและกิจการระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ อดีตภรรยาของนายชัยณัฐร์หรือตู้ห่าว เป็นจำเลยที่ 8 กับพวก รวมกับพวกสัญชาติจีน ไทย กัมพูชาและบริษัทนิติบุคคล ในข้อหายาเสพติด-ฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

 

โดยนายตู้ห่าว เป็นนักธุรกิจชาวจีน สัญชาติไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ ผับจิ้นหลิง โดยมีชื่อเป็นผู้เช่าและดูแลผับจิ้นหลิง ซึ่งเป็นสถานบริการให้เปิดให้คนจีนเข้ามาใช้ และการตรวจค้นของตำรวจเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2565 ในผับพบชาวจีนมาใช้บริการหลายร้อยคนและที่สำคัญพบยาเสพติดจำนวนมาก จนเป็นที่มาของการขยายผล กลุ่มทุนจีน แต่ในวันที่ตรวจค้นผับจิ้นหลิงไม่พบตัวนายตู้ห่าว

 

จากนั้นตำรวจขยายผลตรวจค้นบ้านพักและบริษัทของนายตู้ห่าวอีกหลายจุด ยึดทรัพย์และดำเนินคดีคนใกล้ชิด สำหรับนายตู้ห่าว หลังถูกออกหมายจับได้เข้ามอบตัวและปฏิเสธข้อกล่าวหา

 

ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้ง 25 คนฟัง ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยในคดีนี้ จำเลยที่ 1, 4 และ 5 รับสารภาพ แต่จำเลยที่เหลือให้การปฏิเสธ

 

ศาลพิเคราะห์แล้ว ไม่พบพยานหลักฐานหรือข้อเท็จจริงของโจทก์ที่ชี้ชัดได้ว่าจำเลยมารวมตัวกันและกระทำการเข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หรือเป็นอั้งยี่ เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน้อย ไม่หนักแน่นเพียงพอ จำเลยทั้งหมดจึงไม่มีความผิดตามฟ้องในข้อหาดังกล่าว

 

สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ซึ่งมีความผิดมูลฐานจากคดียาเสพติด โดยพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้รับฟังได้ เนื่องจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินในบัญชีธนาคารไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่า เงินที่เข้ามาในบัญชีของจำเลยที่เกี่ยวข้อง เป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดหรือการจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มในสถานบริการ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย การกระทำของจำเลยทั้ง 25 ไม่มีความผิดฐานฟอกเงิน

 

ส่วนความผิดในข้อหาอื่น ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำเลยที่ 1 และ 4 มีความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและครอบครองอาวุธปืน ตามพ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ร.บ.อาวุธปืน 5 กระทง ลงโทษทุกกรรม จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 27 ปี 6 เดือน ปรับ 1,690,000 บาท

 

ขณะที่จำเลย 5 มีความผิด 8 กระทง แบ่งเป็น 5 กระทงแรก คือความผิดเดียวกับจำเลยที่ 1 และ 4 ส่วนกระทงที่ 6-8 เป็นความผิดเกี่ยวกับการจัดตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ เบื้องต้น จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 28 ปี 12 เดือน ปรับ 2,600,000 บาท

 

ส่วนจำเลยที่ 7, 11 และ 12 พบมีความผิดฐานสนับสนุนและช่วยเหลือเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด 4 กระทง โดยทั้ง 3 คนให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 21 ปี 24 เดือน ปรับ 1,766,666.66 บาท

และให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2คือนายตู้ห่าว และจำเลยอื่นรวม  19 คน

 

โดยขั้นตอนหลังจากนี้ทางพนักงานอัยการจะต้องไปขอคัดคำพิพากษาฉบับเต็มเพื่อส่งให้อัยการศาลสูงสุดพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาหรือไม่ เหตุที่เป็นอำนาจอัยการสูงสุด เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร