นายกสภาทนายความ ลั่นกัดไม่ปล่อย ทนายโซเชียลหิวแสงฉ้อโกงลูกความ
เปิดข้อมูลสภาทนายความ พบเหล่าทนายความคนดังโซเชียล ล้วนมีชนักติดหลัง ถูกร้องผิดมรรยาททนายความอื้อ "วิเชียร ชุบไธสง"ลั่นกัดไม่ปล่อยทนายหิวแสงฉ้อโกงลูกความ ชี้คนเหล่านี้มีน้อยแต่ทำองค์กรเสื่อมเสียต้องจัดระเบียบ
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 กรณีมีทนายความถูกร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า มีพฤติกรรมฉ้อโกงลูกความ อันมีผลสืบเนื่องมาจากจักรวาล คดี the icon group ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบข้อมูลคดีมรรยาทของบรรดาทนายความโซเชียลคนดังจำนวนหลายคน พบว่า ล้วนมีคดีมรรยาทติดตัวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาท ซึ่งทนายความคนดังบางคนถูกร้องเป็นคดีมรรยาทมากกว่า 20 คดีแล้ว และทนายความคนดังหลายคนถูกพักใบอนุญาตให้เป็นทนายความ และบางคนถูกลบชื่อจากทะเบียนทนายความไปแล้ว
ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เปิดเผยว่า ได้ประสานความร่วมมือกับประธานกรรมการมรรยาท สภาทนายความ เพื่อตรวจสอบเอาผิดทนายความที่มีประพฤติผิดมรรยาท ฉ้อโกงลูกความอย่างจริงจัง และเร่งรัดการพิจารณาคดีมรรยาทที่ทนายโซเชียล ได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กร และสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ หากมีข้อเท็จจริงปรากฏตามสื่อต่างๆสามารถที่จะหยิบยกนำมาเป็นคดีมรรยาทได้ทันที เพราะเป็นเรื่องที่ความปรากฏอย่างชัดแจ้ง
ในการพิจารณาคดีมรรยาท ในเบื้องต้นเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานกรรมการมรรยาท และกรรมการมรรยาทสภาทนายความ เมื่อคณะกรรมการมรรยาท พิจารณาคดีแล้วเสร็จ จึงจะส่งสำนวนคดีมรรยาทให้แก่นายกสภาทนายความเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ พิจารณาอีกครั้ง
คณะกรรมการบริหารสภาทนายความมีอำนาจในการที่จะทำคำสั่ง หรือคำวินิจฉัย โดยมีอำนาจอิสระที่จะจำหน่ายคดี ยกข้อกล่าวหา ลดโทษ หรือเพิ่มโทษได้ด้วย เมื่อมีการพิจารณาคดีเสร็จ นายกสภาทนายความจะส่งเรื่องคืนไปยังประธานกรรมการมรรยาท เพื่อแจ้งให้คู่กรณีได้รับทราบผลคดี
เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วประธาน กรรมการมรรยาท จะแจ้งคำสั่งลงโทษไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม และเนติบัณฑิตยสภา เพื่อทราบต่อไป อนึ่ง โทษที่จะลงแก่ทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาททนายความนั้นมีอยู่ 3 ประการ คือ
1.ภาคทัณฑ์
2. ห้ามการเป็นทนายความไม่เกิน 3 ปี
3. ลบชื่อจากทะเบียนทนายความ
"หากทนายความคนใดได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอก ฉ้อโกง หรือตระบัดสินลูกความ หรือประกอบอาชีพ ดำเนิน หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ถือว่าเป็นเหตุที่จะทำการลบชื่อจากทะเบียนทนายความได้" ดร.วิเชียร กล่าว
นอกจากนี้ หากมีพฤติกรรม การเสี้ยมสอนให้พยานเบิกความเท็จ หรือทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ การอวดอ้างว่าตนเองเก่งกว่าทนายคนอื่น หรืออวดอ้างว่ามีพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำให้ลูกความหลงเชื่อว่าตนสามารถทำให้ลูกความได้รับประโยชน์พิเศษนอกจากทางว่าความ หรือจะชักจูงใจผู้นั้นช่วยเหลือทางคดีได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนทำคดีนั้นแล้วจะหาทางให้ผู้นั้นทำให้คดีลูกความแพ้ หรือการเรียกรับเงินไปวิ่งเต้นคดี การแย่งคดี หรือจงใจขาดนัดหรือทอดทิ้งคดี เป็นต้น ล้วนแต่เป็นการประพฤติผิดมรรยาททั้งสิ้น
"ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ามีเพียงทนายความบางคนเท่านั้นที่สร้างปัญหา และคนเหล่านี้จะต้องถูกจัดระเบียบอย่างจริงจัง และสมาชิกทนายความส่วนใหญ่รักองค์กร พร้อมที่จะอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน และพร้อมที่จะช่วยกันรักษาองค์กรให้เป็นที่พึ่งประชาชนต่อไป"