รัฐคืนเงินลูกหนี้กยศ.1.7แสนคนเฉลี่ยรายละ12,000บาท
ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล เผยลูกหนี้ กยศ. 2.81 ล้านคน ได้ลดยอดหนี้ค้างลง 5.4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อคนได้ลดภาระลงเหลือรายละ 19,000 บาท เทียบกับค่าไฟฟ้าประหยัดได้ถึง15ปี
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาลูกหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กว่า 4 ล้านคน สำรวจแล้วพบผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินคืน 1.7 แสนราย คิดเป็นยอดเงินที่ต้องคืน 2,100 ล้านบาท คิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อคนจะได้รับเงินคืนประมาณ 12,000 บาท
ขณะที่กลุ่มที่ได้ลดหนี้ 2.81 ล้านคน คิดเป็นยอดหนี้ที่ต้องจ่ายลดลง 5.4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อคนจะได้ลดภาระที่ต้องชำระลง รายละ 19,000 บาท
“19,000 บาท เป็นรายจ่ายที่จะประหยัดได้ ถ้าเทียบกับค่าไฟ ค่าไฟลดแค่ 20 สตางค์ต่อหน่วย ถ้าบ้านใครใช้ไฟ 500 หน่วยต่อเดือน 1 เดือน ประหยัดไปแค่ 100 บาท เทียบกับ 19,000 หมื่นบาท หารด้วย 100 เท่ากับประหยัดไป 190 เดือน เกินกว่า 15 ปี เพราะฉะนั้นเป็นการลดภาระหนี้ได้เป็นกอบเป็นกำ”นายชัยกล่าว
นายชัยกล่าวว่า กระทรวงการคลังมีการสั่งการแล้วว่า ต้องแจ้งกลับไปที่ลูกหนี้กยศ.ให้ทราบสิทธิ์ทันทีว่าได้รับเงินคืนเท่าไหร่ ซึ่งทุกคนจะได้รับแจ้ง
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนฯได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้แก่ผู้กู้ยืมกว่า 3.65 ล้านบัญชี พบว่ามีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์จากการคำนวณยอดหนี้ใหม่จำนวนกว่า 2.98 ล้านคน ยอดหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ประกอบด้วย
- ผู้กู้ยืมมียอดหนี้ที่ต้องชำระลดลง จำนวน 2.8 ล้านคน
- ผู้กู้ยืมที่มียอดชำระหนี้ครบถ้วนและสามารถปิดบัญชีได้ จำนวน 177,936 คน
- มีผู้จะได้รับเงินคืน จำนวน 177,917 คน เป็นเงิน 2,104 ล้านบาท
- สามารถหยุดหักเงินเดือนผ่านองค์กรนายจ้าง จำนวน 18,326 คน
ทั้งนี้ การคำนวณยอดหนี้ใหม่ข้างต้นเป็นการคำนวณหนี้โดยไม่ใช้ระบบ กยศ. Connect ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566 โดยได้นำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนกองทุนฯนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่ตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และคิดเบี้ยปรับในอัตรา 0.5% ต่อปี
โดยผู้กู้ยืมสามารถเข้าระบบตรวจสอบภาระหนี้ที่คำนวณใหม่ได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป และหากผู้กู้ยืมต้องการปรับโครงสร้างหนี้
กองทุนฯจะใช้ยอดหนี้ที่ได้คำนวณใหม่นี้ในการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อปลดภาระผู้ค้ำประกันให้พ้นจากความรับผิด และเมื่อระบบ กยศ. Connect ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้วยอดหนี้ทั้งหมดจะถูกปรับโดยอัตโนมัติและจะแสดงในแอปพลิเคชัน กยศ.Connect
สำหรับภาพรวมผู้กู้จากกองทุนกยศ.มี 6,809,621 คน เงินให้กู้ยืม 770,284 ล้านบาท โดยสถานะของผู้กู้ที่ชำระหนี้หมดแล้ว จำนวน 1.8 ล้านคน อยู่ระหว่างชำระหนี้ 3.6ล้านคน อยู่ในช่วงปลอดหนี้ 1.3 ล้านคน และเสียชีวิต/ทุพพลภาพ 70,000 คน ซึ่งตั้งแต่ปี2539 ถึงปัจจุบัน กองทุนฯใช้เงินงบประมาณไปแล้ว 468,673 ล้านบาท โดยกองทุนฯคิดอัตราดอกเบี้ย 1%ต่อปี และมีเบี้ยปรับหากผิดรับชำระหนี้ 0.5%ต่อปี
อย่างไรก็ตาม กองทุนได้ชะลอการฟ้องคดี 262,954 คน เป็นเงิน 26,158 ล้านบาท งดการบังคับคดี 160,486 คน วงเงิน 14,462 ล้านบาท ขอขยายระยะเวลาบังคับคดี 175,915 คน วงเงิน 23,557 ล้านบาท ของดขายทอดตลาด 178,263 คน วงเงิน 41,590 ล้านบาท และมีหนังสือถึงสำนักงานทนายความทุกแห่งให้งดบังคับคดี 391 แห่ง นอกจากนี้ ผู้กู้ยืมขอปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 86,962 คน


