วอนแรงงานไทยในอิสราเอลกลับยันได้ค่าจ้างเต็มและทำต่อได้หลังสงครามสงบ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ ณ ประเทศอิสราเอล เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์การสู้รบอาจมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของแรงงานไทยในอิสราเอล โดยการสู้รบที่ขยายพื้นที่ในวงกว้างจะส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศอิสราเอล และ กระทบต่อกระบวนการอพยพพี่น้องแรงงาน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีพี่น้องแรงงานบางส่วนที่ยังมีความกังวลถึงค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับ หรือกังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานได้ภายหลังจากสถานการณ์สงบลง รัฐบาลโดย กระทรวงแรงงานขอยืนยันให้ความมั่นใจกับพี่น้องแรงงานว่า

“พี่น้องแรงงานทุกคนจะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน และจะสามารถกลับไปทำงานภายหลังสถานการณ์สงบได้อย่างแน่นอน”

ทั้งนี้  ทางกระทรวงแรงงาน ยังร่วมหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม สำหรับพี่น้องแรงงานไทยในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในครั้งนี้ด้วยแล้วอย่างเต็มที่

โดยรัฐบาลขอให้พี่น้องแรงงานไทย พิจารณาทบทวนให้ถี่ถ้วนในการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตเป็นสิ่งแรก โดยรัฐบาลได้เตรียมพร้อมในการอพยพพี่น้องแรงงานไทยกลับสู่ประเทศได้อย่างปลอดภัยในเวลาที่รวดเร็วที่สุด

ทั้งนี้สามารถแจ้งความประสงค์มายังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ทันทีที่โรงแรม David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501
โทรศัพท์ศูนย์พักพิง : 050-443 8094, 053-557-4115
โทรศัพท์สถานทูตฯ : 055-271 2201, 053-245 2826, 054-636 8150

ล่าสุดสถานการณ์ผลกระทบต่อคนไทยจากสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กาซา (สถานะคืนวันที่ 27 ต.ค 66)

เสียชีวิต - 32 ราย ( ลดลง 1 รายเนื่องจากได้รับยืนยันว่าเป็นผู้ถูกควบคุมตัว) 
บาดเจ็บ - 19 ราย (เพิ่มขึ้น 1 ราย) 
ถูกจับกุม - 19 ราย (เพิ่มขึ้น 1 ราย) 

ทั้งนี้ สอท.ได้ประสานผู้เกี่ยวข้อง จะนำนักศึกษา ในโครงการ  AICAT อีก 75 คนที่เหลือ กับประเทศไทยทั้งหมด

อนึ่ง จนถึงวันนี้ สถานทูตได้ช่วยเหลือคนไทยแล้วรวม 26 เที่ยวบิน จำนวนผู้ได้รับการช่วยเหลือ 5,639 คน