posttoday

ศาลอาญาคดีทุจริตฯยกฟ้องชัยวัฒน์กับพวกอุ้มฆ่าบิลลี่

28 กันยายน 2566

ศาลอาญาคดีทุจริตฯลงโทษจำคุก"ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” 3 ปีคดีอาญามาตรา 157จับกุม“บิลลี่” พร้อมน้ำผึ้งป่า แต่ไม่นำส่งตำรวจ ส่วนข้อหาอุ้มฆ่าทำลายศพยกฟ้อง พยานโจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่าบิลลี่เสียชีวิตหรือไม่กระดูกที่พบระบุไม่ได้ของใคร

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.66  ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ออกนั่งบัลลังก์ที่ห้องพิจารณา 303 อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อท.166/2565 ที่อัยการโจทก์ยื่นฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชและพวกรวม 4 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีการหายตัวไปของนายบิลลี่โดยมีคู่ความทั้งสองฝ่ายเดินทางมาศาล 
 

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยข้อแรกว่า จำเลยกระทำผิดมาตรา 157 หรือไม่ เห็นว่า จำเลยที่ 1 จับกุมนายบิลลี่พร้อมน้ำผึ้งป่าและรถจักรยานยนต์ที่ด่านตรวจ แต่ไม่ยอมทำบันทึกการจับกุมและนำตัวส่งตำรวจพื้นที่ตามขั้นตอน ถือว่าจำเลยมีความผิด ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจำเลยที่ 2 ถึง 4 ทำตามที่จำเลยที่ 1 สั่งยังไม่เป็นความผิด

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อว่าจำเลยทั้ง 4 ร่วมกัน กักขัง ข่มขืนใจให้นายบิลลี่ขึ้นรถยนต์หรือไม่เห็นว่ามีพยานเห็นว่าจำเลยทั้ง 4 พานายบิลลี่ขึ้นรถแต่ไม่มีการขู่บังคับโดยใช้อาวุธ แต่ไม่มีพยานคนใดยืนยันได้ว่าจำเลยปล่อยตัวนายบิลลี่ลงที่บริเวณใกล้กับแยกไฟแดง แต่พยานโจทก์ก็ยังไม่มีการเบิกความให้เห็นว่าจำเลยทั้ง 4 ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง นายบิลลี่แต่อย่างใด

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัย ต่อไปว่าจำเลยทั้ง 4 ร่วมกันฆ่านายบิลลี่โดยไตร่ตรองหรือไม่ เห็นว่า ชิ้นส่วนกระดูกที่โจทก์นำสืบ ผลตรวจไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นกระดูกของนายบิลลี่หรือไม่และโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่านายบิลลี่ ยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิต ดังนั้นพยานหลักฐานจึงยังไม่อาจ เชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 4 ร่วมกันฆ่านายบิลลี่

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยข้อสุดท้ายว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่เห็นว่า ข้อหาที่มีการแจ้งต่อจำเลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่พนักงานสอบสวนจะมีอำนาจฟ้องคดี

ทนายฝ่ายโจทก์ ภรรยาของนายบิลลี่

พิพากษาว่า นายชัยวัฒน์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีที่ไม่ทำบันทึกการจับกุมนำตัวนายบิลลี่ส่งพนักงานสอบสวนสั่งจำคุก 3 ปีโดยไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นพิพากษายกฟ้องและจำเลยที่ 2-4 พิพากษายกฟ้อง ภายหลังฟังคำพิพากษา นายชัยวัฒน์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดีโดยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ด้านน.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ทนายความร่วมฝั่งโจทก์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์คดีอย่างแน่นอนเนื่องจากศาลลงโทษเฉพาะความผิด มาตรา 157 กรณีจับกุมตัวนายบิลลี่ พร้อมน้ำผึ้งป่าไม่นำส่งพนักงานสอบสวน ตามขั้นตอนของกฎหมาย คดีนี้ เท่ากับย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นว่านายบิลลี่ ยังคงเป็นบุคคลสูญหาย จึงจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการพิสูจน์การหายตัวไปของนายบิลลี่ 
   
ด้าน พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายบิลลี่ กล่าวว่า อยากตามหาบิลลี่ให้พบ  เพื่อให้หายข้องใจว่า สามีหายตัวไปไหน

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร

ด้าน นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้ศาลไต่สวนและพิจารณาสำนวนทั้งหมดด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมาก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายบิลลี่ แต่ถูกลงโทษเรื่องการปล่อยตัวนายบิลลี่กลางทาง ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา ก็เตรียมจะยื่นอุทธรณ์ ข้อหามาตรา 157 ในการที่ละเว้นหน้าที่ วันนี้จึงเป็นกรณีตัวอย่างให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานฯทุกคนว่าอย่าท้อในสิ่งที่เราปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าเพื่อคนทั้งประเทศ 
 
นายชัยวัฒน์ ยืนยันไม่เคยจับชาวบ้าน จากหมู่บ้านบางกลอย จังหวัดเพชรบุรี เหตุในคดีนี้เป็นเรื่องของน้ำผึ้งป่าที่ตามกฎหมายเดิม จะไม่สามารถให้ชาวบ้านหรือชุมชนนำของป่าออกไปขายได้ แต่ปัจจุบันนี้มีการออกกฎหมายใหม่ ให้สิทธิ์ทำกินราษฎรได้ เก็บของป่าอยู่ภายใต้กฎหมายก็จะพยายามสู้ในประเด็นนี้ จึงมีความหวังว่าในชั้นอุทธรณ์ศาลจะเมตตาขอให้เรามีที่ยืนในสังคมบ้างขณะที่เราทำงาน